รีวิว Dell inspiron 14 5491 2-in-1 ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หาไม่ได้จากโน้ตบุ๊กทั่วไป

PROS

จอแสดงผลสว่างและสีสันสดใส
สตอเรจ NVMe ความเร็วสูง
พอร์ต USB-C รองรับโปรโตคอล PD
ติดตั้ง Fingerprint

CONS

เสียงลำโพงค่อนข้างเบา
ไม่มีพอร์ต GbLAN
Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac

บอกกันตามตรงว่าโน้ตบุ๊กแนว Convertible ถือว่าใช้งานได้ครอบจักรวาลจริงๆ ไม่ว่าจะใช้ทำงานในรูปแบบของโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตที่ให้ปากกา Active Pen มาด้วย หรือในแง่ของการรับชมวิดีโอ รวมถึงนำเสนองานลูกค้าด้วย Tent mode และ Stand mode ดังนั้นรีวิวของโน้ตบุ๊ก Inspiron 14 5491 2-in-1 เราจะเน้นไปที่ประสบการณ์ในการใช้งาน แต่ก่อนอื่นไปดูสเปคเครื่องเราได้รับจาก Dell กันก่อน

Key Specifications

  • ราคาโดยประมาณ: 29,900 บาท
  • Intel Core  i5-10210U @1.6GHz 4c / 8t  
  • 8GB, DDR4, 2666MHz Upgradable
  • 512GB M.2 PCIe NVMe Solid State Drive
  • GeForce  MX250 2GB GDDR5
  • 14 นิ้ว (1,920x1,080) IPS display
  • Windows 10 Home 64-bit
  • WLAN 802.11ac 2x2, Bluetooth
  • Battery Li-ion 42 Wh, Fingerprint Sensor
  • ขนาด (กxยxส): 336x233x120.23 มม.
  • น้ำหนัก 1.67 กิโลกรัม

มีพอร์ตเพียงพอสำหรับการใช้ทั่วไป
โน้ตบุ๊ก inspiron 14 5491 เน้นให้ใช้งานพื้นฐานแบบพกพาได้โดยไม่มีปัญหา มีพอร์ต USB Type A Superspeed 2 พอร์ตและ USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ต พร้อมด้วย HDMI, USB-C Displayport ที่รองรับการจ่ายไฟด้วยโปรโตคอล PD, 3.5 audio combo และ SD Card Slot โดยที่ไม่มีพอร์ต GbLAN หรือ miniDP มาให้ การแบ่งระยะห่างของพอร์ตยูเอสบีเองก็ไม่ชิดเกินไป เสียบแฟลชไดรฟ์กับเคเบิ้ลยูเอสบีได้โดยไม่เบียดกัน แถมพอร์ตส่วนใหญ่อยู่ทางซ้ายของเครื่อง ไม่เกะกะเวลาใช้งานเมาส์

โทนสีของโน้ตบุ๊กเรียกว่า Silver Platinum และมีผิวกึ่งด้านไม่มันเงา ดังนั้นปัญหาเรื่องการเปรอะรอยนิ้วมือหรือคราบไขมันจึงเกิดขึ้นได้ยากและทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนวัสดุภายนอก เราเองไม่แน่ใจว่าฝาหลังหรือฝาปิดบานพับผลิตจากโลหะหรือไม่ แต่ฝาด้านล่างกับแป้นวางมือไม่ใช่โลหะแน่นอน ถึงอย่างนั้นความแข็งแรงของบอดี้ การประกอบชิ้นงานในจุดต่างๆ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและมีรายละเอียดการออกแบบที่ผ่านการไตร่ตรองมาแล้ว อย่างเช่น ตำแหน่ง Rubber feet เล็กๆ 4 จุดด้านใน (ด้านเดียวกับแผงคีย์บอร์ด) ทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งป้องกันการกดทับหน้าจอเมื่อปิดฝาลงหรือเมื่อใช้งานแบบ Stand mode นอกจากนั้น Rubber feet บริเวณบานพับเองก็จะมีการขยับเข้าด้านในเครื่องเมื่อพับใช้งานแบบแท็บเล็ต

ด้วยการออกแบบให้มันพับได้ 360 องศา แกนบานพับจึงมีมากถึง 4 แกน การปิดพับแม้ว่าจะทำได้ราบรื่นไม่มีสะดุด มีความแข็งแรงมั่นคงสูงมาก แต่มันก็หนืดและใช้แรงมากกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปเท่าตัว เปิดด้วยมือเดียวไม่ได้ เพราะนอกจากความหนืดแล้ว ยังมีแม่เหล็กซ่อนไว้บริเวณขอบของแป้นวางมือและขอบจอด้านบนทั้งหมด 4 จุด

ถึงอย่างนั้นเรามองว่า นี่คือข้อดีมากกว่าข้อเสีย คุณไม่จำเป็นต้องเปิดโน้ตบุ๊กด้วยมือเดียวที่เพิ่มโอกาสให้ฝาหลังหรือจอภาพบิดงอ และการปิดแน่นก็ทำให้มันไม่มีทางเปิดออกโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งป้องกันหน้าจอแตกหรือรอยขีดข่วนได้ อย่างเช่น กรณีที่มันเปิดออกในกระเป๋าและมีสิ่งของหลุดเข้าไป... ที่เหลือคิดเอาเองนะครับ



คีย์บอร์ดเลย์เอาต์ดี มีไฟ ทัชแพดใช้ได้
ข้อติของคีย์บอร์ดบนโน้ตบุ๊ก Inspiron 14 5491 ก็คือ เรื่องปุ่มแถวบนมีขนาดเล็ก ไม่มีปุ่มฟังก์ชันในการปิดทัชแพด ส่วนปุ่มคีย์บอร์ดมีขนาดมาตรฐานทั่วไป 16x14 มิลลิเมตร ระยะการกดตื้น นิ่มปลายนิ้ว ตัวอักษรคมชัด ไฟ Backlid ส่งลอดออกมาอย่างสมบูรณ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แม้แต่ในอักขระเล็กๆ การทดสอบพิมพ์ส่วนตัวยังมีข้อผิดพลาดบ่อยครั้ง เนื่องจากระยะเบี่ยงเบนของปุ่มคีย์บอร์ดที่จัดวางลงไปแตกต่างกันเล็กน้อยกับโน้ตบุ๊กที่ใช้งานอยู่ประจำ ตรงนี้ไม่ต้องกังวล ใช้ไปสักระยะจะคุ้นชินไปเอง

กลับมาที่ทัชแพด ขนาดใหญ่ 10.6x6.6 เซนติเมตร ตำแหน่งวางขยับออกไปทางซ้ายมือเล็กน้อย เคลือบผิวมาแบบหยาบ ดังนั้นมันจึงให้ความรู้สึกไม่ลื่นนัก แต่การเลื่อนเคอร์เซอร์ การสไลด์สองนิ้ว การใช้งาน Multi-gestures มีการตอบสนองที่รวดเร็ว ไม่มีข้อบกพร่องอะไร ปุ่มคลิกทั้งสองข้างเสียงรบกวนต่ำ ซึ่งถ้าเป็นปุ่มที่นิ่มกว่านี้จะดีมาก

จอภาพมุมมองกว้าง สีสดใส ทัชได้เร็ว ใช้งานกับ Active Pen ได้น่าพอใจ
หน้าจอของโน้ตบุ๊กตัวนี้ปิดทับด้วยกระจก มันจึงมีสีสันภาพที่สด อัตราคอนทราสต์สูงกว่าจอแบบด้าน แน่นอนว่า สิ่งที่ตามมาก็คือ เงาสะท้อน แต่ด้วยพาแนล IPS ที่มีข้อได้เปรียบเรื่องมุมมองที่กว้างบวกกับความยืดหยุ่นของบานพับ แค่ปรับองศาจอนิดหน่อยก็แก้ปัญหาตรงนี้ได้

ส่วนการใช้งานผ่านปลายนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นการปัดในทุกทิศทาง การซูมเข้าออกด้วยสองนิ้ว การลากลงเพื่อปิดแอพก็มีการตอบสนองในระดับพอใช้ จริงๆ แล้ว ทาง Dell นำเสนอหน้าจอตัวนี้ด้วยคำว่า Dell Cinema Color ซึ่งในแง่ของการรับชมภาพยนตร์มันช่วยให้สีสันสดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่คุณต้องเลือกโปรไฟล์สีให้เหมาะสมกับประเภทคอนเทนต์

ปากกา Dell Active Pen PN350M ก็ถือว่าเพิ่มมิติการใช้งานใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้กลุ่มออฟฟิศ ยกตัวอย่างเช่น การตรวจแก้งานด้วยการทำไฮไลต์หรือการเขียนคำอธิบายลงในเอกสารดิจิทัล การใช้งานพื้นฐานเหล่านี้ปากกา Dell Active Pen ทำหน้าที่ได้ดี แต่ถ้าเป็นการใช้งานเพื่อ Drawing ระดับจริงจัง เรามองว่า มันยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง หลักๆ เช่น ปากการองรับน้ำหนักการเขียนได้ 1,024 ระดับ สนับสนุนเฉพาะโปรโตคอล Microsoft Pen Protocol ไม่สนับสนุน Wacom AES x.x สำหรับข้อมูลทางเทคนิคของปากกา คลิกที่รูปด้านล่างเลยครับ



ทำงานได้รวดเร็วในกลุ่มโปรแกรมธุรกิจและทั่วไป
โน้ตบุ๊กตัวนี้ทำงานได้อย่างราบรื่น แต่ก็ยังไม่เท่ากับโน้ตบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชีพียู Core i5 9300H ถึงจะมีแกนประมวลผล ปริมาณแรม ความเร็วของสตอเรจ NVMe ในระดับเดียวกัน แต่เรื่องขนาดแคชรวม ความเร็วสัญญาณพื้นฐานของซีพียู Core i5 10210U นั้นต่างกันพอสมควร ถึงอย่างนั้นการใช้งานโปรแกรมเอกสาร ตารางข้อมูล โปรแกรมอีเมล์ การใช้งานอินเทอร์เน็ตเปิดหน้าต่างเว็บบราวเซอร์สัก 10 หน้าต่างมันก็ยังคงทำงานได้ดี ส่วนโปรแกรมหนักๆ อย่างเช่น Photoshop สามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหากวนใจอะไร

คำแนะนำของเราก็คือ ปรับใช้การจัดการพลังงานใดก็ได้ที่ไม่ใช่ "Best battery life" เมื่อไม่ได้เสียบอะแดปเตอร์ เพราะมันจะทำให้เครื่องตอบสนองช้าลงจนรู้สึกได้

สำหรับคนที่ประเมินประสิทธิภาพโน้ตบุ๊กด้วยเบนช์มาร์ก ผลของตัวเลขที่ออกมาก็บ่งชี้ภาพรวมของรวมโน้ตบุ๊กได้ชัดเจน พูดกันง่ายๆ ก็คือ ทำได้ดีตามสภาพโน้ตบุ๊กที่ใช้ซีพียูประหยัดพลังงาน ส่วนการเล่นเกม ชิป Geforce MX230 ไม่ได้เน้นเรื่องการเล่นเกมเป็นหลักเหมือนกับกลุ่ม Geforce GTX หรือ RTX ดังนั้นไม่ต้องคาดหวัง ถ้าจะเล่นพวกเกมแก้เครียดที่ไม่ได้ต้องการทรัพยากรระบบมากมายก็พอจะเล่นได้ยู่บ้าง


แบตเตอรี่ขนาดมาตรฐาน ใช้งานพื้นๆ ได้นานเกิน 4 ชั่วโมง
การทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 42 Wh ผ่านการใช้งานจริงและปรับทุกอย่างให้เหมาะสมต่อพิมพ์เอกสาร ดูวิดีโอยูทูป หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย Wi-Fi ตลอดจนกระทั่งการใช้วาดรูปสนุกๆ ทั้งหมดนี้ทำงานภายใต้โหมดการจัดการพลังงานแบบ Better Performance สามารถทำงานได้ 309 นาที หรือ 5 ชั่วโมง 15 นาที พร้อมกับแบตเตอรี่คงเหลืออีก 5 เปอร์เซ็นต์


 

2 -in-1 คือ ประสบการณ์ที่แตกต่าง
การจับคู่ของส่วนประกอบต่างๆ อย่างซีพียู หน่วยความจำแรมและสตอเรจ NVMe ทาง Dell ระบุว่า Fast, Smooth and Easy จากสิ่งที่เราสัมผัส เราประเมินออกมาเป็นคะแนนประมาณ 4.2/ 5 คะแนน นั่นเป็นเพราะว่า การทำงานทั่วไปมันรวดเร็วก็จริงอยู่ แต่ก็มี Gap ของเวลาในบางจังหวะ อย่างเช่น การสลับไปสู่โหมดแท็บเล็ต หรือการสั่งงานด้วยปลายนิ้ว อย่างการซูม ซึ่งมันจะมีอาการดีเลย์เล็กๆ โดยเฉพาะเวลาทำงานด้วยแบตเตอรี่ เรามองว่ามันจะทำได้ดีกว่านี้ในรุ่นที่ใช้ซีพียู Core i7

อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงจุดเล็กๆ เท่านั้น เพราะสิ่งที่คุณจะได้รับจากโน้ตบุ๊ก inspiron 14 5491 2-in-1 มันยิ่งใหญ่กว่า นั่นก็คือ ประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากโน้ตบุ๊กดีไซน์มาตรฐาน ตรงนี้มันช่วยให้คุณขยายขอบเขตการใช้งานใหม่ๆ ปรับปรุงการทำงานของทีมหรือตัวเอง แน่นอนว่า มันสะดวกมากขึ้น แต่คุณเองก็ต้องพัฒนาและปรับตัว โดยเฉพาะการใช้งานปากกา Active Pen PN350M  มันไม่ได้ใช้งานยาก แต่ต้องอาศัยเวลาฝึกให้คล่องมือ

บทสรุปและความคิดเห็นของเรา
ในมุมหนึ่งมันยังคงเป็นโน้ตบุ๊กเมนสตรีมที่มีน้ำหนักมาตรฐานในยุคนี้ ตัวเครื่องแข็งแรง หน้าจอสีสันสดใส ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ทั่วไปได้ดี และให้ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหนือกว่ามาตรฐานของตลาดอยู่เล็กน้อย อีกมุมหนึ่งมันก็สามารถปรับเป็นแท็บเล็ตที่ให้คุณต่อยอดวิธีการทำงานกับไฟล์ดิจิทัลหรือให้ความคล่องตัวในกรณีที่ต้องปรับใช้งานโน้ตบุ๊กในโหมดต่างๆ ตามสถานการณ์ เช่น นำเสนอผลงานผ่านหน้าจอในโหมด Tent เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เราก็ยังคงไม่ชอบนักกับเรื่องน้ำหนักที่ดูจะมากไปนิดสำหรับการใช้งานเป็นแท็บเล็ต เมื่อต้องถือเดินไปเดินมา แต่นั่นคงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดวัน และจากภาพรวมของมันเทียบกับราคาแล้ว เราเองก็ตอบได้ยากว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม เอาเป็นว่า ถ้าใครกำลังมองหาโน้ตบุ๊ก Convertible ลักษณะนี้ในเรทราคาประมาณนี้ นี่คือตัวเลือกที่สามารถดึงเข้าไปอยู่ในลิสต์พิจารณาได้ทันที
 

ราคาโดยประมาณ: 29,990 บาท
Special Thanks: Dell Thailand