Foxconn เผย จีนไม่สามารถเป็น “โรงงานผลิตของโลก” ได้อีกแล้ว

บริษัท Foxconn เปิดเผยผลประกอบการล่าสุดออกมา แต่ดูเหมือนว่าซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดของแอปเปิ้ลรายนี้จะมีรายได้จะสวนทางกับสถานการณ์โลกและสิ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากธุรกิจทั่วโลกส่วนใหญ่ชะงักจากการระบายของไวรัส Covid-19


ทาง Foxconn มีผลกำไรสุทธิ 778.55 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสล่าสุดหรือสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน โดยตัวเลขดังกล่างเพิ่มขึ้นถึง 34 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แถมยังมากกว่าความคาดหมายถึง 170 ล้านเหรียญสหรัฐ โรงงานผลิตของไต้หวันเชื่อว่า ผลรายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการที่ผู้คนจะต้องทำงานที่บ้าน ส่งผลให้เกิดความต้องการอุปกรณ์ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคและภาคองค์กรอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเทียบกับกับช่วงก่อนการระบาดของไวรัส

Young Liu ประธาน บริษัท  Hon Hai Precision Industry หรือบริษัทแม่ของ Foxconn กล่าวกับสำนักข่าว Bloomberg ว่า ผู้ผลิตขนาดใหญ่กำลังจะค่อยๆ สร้างกำลังการผลิตนอกประเทศจีนมากขึ้น เนื่องจากแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน  “แม้ว่าจีนจะยังคงเป็นเขตพื้นที่สำคัญต่อการผลิต แต่วันที่พวกเขาเป็นโรงงานผลิตของโลกได้ผ่านพ้นไปแล้ว”

ในขณะนี้ ทาง Foxconn มีกำลังการผลิตจากภายนอกประเทศจีนแล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่มีตัวเลขการผลิต 25 เปอร์เซ็นต์ จากปีทีแล้ว นอกจากนั้นพวกเขาเองก็กำลังมองหาสถานที่ตั้งโรงงานหลายแห่ง ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศอินเดีย เวียดนาม เม็กซิโก บราซิล และสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ลูกค้าของ Foxconn เองก็ต้องการกระจายซัพพลายเชนของตัวเองด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่อินเดียผลักดันการลงทุนถึง 6,600 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อดึงดูดให้บริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่เข้ามาสร้างระบบนิเวศน์ด้านการผลิตภายในประเทศ และดูเหมือนว่าแผนงานดังกล่าวประสบความสำเร็จ เพราะว่าโรงงาน Wistron กำลังทำหน้าที่ผลิคโทรศัพท์ iPhone 11 ให้กับแอปเปิ้ล ส่วน Pegatronก็กำลังเดินหน้าสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเมือง Chennai