หัวเว่ยมุ่งบ่มเพาะบุคลากรดิจิทัลไทย ชูแนวคิด ‘เสริมศักยภาพบุคลากร ปูทางสู่อนาคต’

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีชั้นนำ เข้าร่วมมหกรรม Job Expo Thailand 2023 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างบุคลากรดิจิทัลให้กับประเทศไทย งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยกระทรวงแรงงาน ร่วมด้วยสถานประกอบการกว่า 400 แห่ง เพื่อสรรหาบุคลากรที่มากด้วยความสามารถให้เข้าสู่ตลาดแรงงาน สร้างเครือข่ายพันธมิตร และสร้างโอกาสในการทำงานให้กับผู้ที่กำลังมองหางาน ทั้งตำแหน่งงานในประเทศไทยและต่างประเทศ ในหลากหลายภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมไอซีที

มหกรรม Job Expo Thailand 2023 ยังเข้าร่วมโดยกรมการจัดหางาน นำโดยนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง พร้อมเปิดรับสมัครบุคลากรเพื่อเติมเต็มตำแหน่งงานกว่า 500,000 อัตรา ทั้งในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนชั้นนำ ในฐานะผู้นำด้านโซลูชันโทรคมนาคมและโซลูชันดิจิทัล การเข้าร่วมมหกรรมในครั้งนี้ของหัวเว่ยจะมอบโอกาสการทำงานกว่า 60 ตำแหน่งสำหรับบุคลากรผู้มีทักษะ บัณฑิตใหม่ และนักศึกษา และยังช่วยส่งเสริมโอกาสการจ้างงานและสร้างความมั่นคงด้านอาชีพให้คนไทย นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมรากฐานของกลุ่มบุคลากรทักษะสูงในท้องถิ่นให้มีความแข็งแกร่ง สอดรับกับวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยเพื่อปูทางสู่ประเทศไทยยุคดิจิทัลในอนาคต ทั้งนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมงานมหกรรม Job Expo มากกว่า 50,000 คน

นายสุทธิ สุโกศล (ที่ 2 จากซ้าย) ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน, นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ปลัดกระทรวงแรงงาน และ นายไพโรจน์ โชติกเสถียร (ที่ 3 จากซ้าย) อธิบดีกรมการจัดหางาน ร่วมเปิดงานมหกรรม Job Expo Thailand 2023 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

 

นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงงานมหกรรมครั้งนี้ว่า “มหกรรม Job Expo Thailand 2023 มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้บัณฑิตใหม่ ผู้ว่างงาน ผู้พิการ และผู้สูงอายุได้พบกับเจ้าของธุรกิจโดยตรง เป็นการเติม
จิ๊กซอว์ด้านการจ้างงาน และยังจับคู่ทักษะแรงงานที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจ ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายของทั้งผู้ที่มองหางานและผู้ประกอบการ ภายในงานยังมอบความรู้ให้ประชาชนทั่วไปในเรื่องแนวโน้มความต้องการของตลาดแรงงาน พร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษาด้านอาชีพ สู่การปลดล็อคขีดความสามารถการจ้างงานของประเทศ ลดอัตราการว่างงานและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เราขอขอบคุณหัวเว่ยและบริษัทชั้นนำที่เข้าร่วมงานมหกรรมนี้ ช่วยสร้างโอกาสการทำงานให้แก่คนไทย ตลอดจนเร่งผลักดันอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตต่อไป”

สำหรับปีนี้เป็นปีที่สองของหัวเว่ยที่เข้าร่วมมหกรรม Job Expo 2023 หลังจากที่เข้าร่วมในปี พ.ศ. 2565 นอกจากตำแหน่งงานประจำในธุรกิจโทรคมนาคม หัวเว่ยยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าร่วมการฝึกงานผ่านโครงการบ่มเพาะบุคลากรของหัวเว่ย เช่น โครงการ ‘Seeds for the Future’ และ ‘ICT Young Talents’ เพื่อเตรียมความพร้อมเยาวชนไทยในการเข้าสู่ตลาดแรงงานและยกระดับทักษะไอซีทีของแรงงานไทย ในปีนี้ หัวเว่ยยังคงมุ่งมั่นสร้างรากฐานความรู้ที่แข็งแกร่งผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการรถดิจิทัลเพื่อสังคม (Digital Bus) และโครงการ ‘Seeds for the Future’ ตลอดจนผนึกกำลังกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ รวมถึงวางแผนผลักดันโครงการพัฒนาทักษะบุคลากรดิจิทัลอีกหลายโครงการ เช่น โครงการ Women in Tech โครงการ Cyber Top Talent และอื่น ๆ อีกมากมาย

ในปี พ.ศ. 2566 หัวเว่ยตั้งเป้าในการบ่มเพาะวิศวกรเพื่อสิ่งแวดล้อม 10,000 คน และนักพัฒนาด้านคลาวด์ของหัวเว่ย 20,000 คนภายในเวลา 3 ปี สะท้อนพันธกิจที่หัวเว่ยมุ่งสานต่อในประเทศไทย นอกจากนี้ หัวเว่ยยังเร่งเสริมแกร่งองค์ความรู้ที่จำเป็นในด้านต่าง ๆ เช่น ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เทคโนโลยีคลาวด์ และ AI ให้แก่บุคลากรด้านไอซีทีขององค์กรอีกด้วย

นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “งานมหกรรมนัดพบแรงงานครั้งยิ่งใหญ่อย่าง Job Expo Thailand 2023 เปิดโอกาสให้องค์กรชั้นนำรวมทั้งหัวเว่ยได้เข้าถึงบุคลากรที่มีทักษะพร้อมด้วยศักยภาพในตลาดแรงงานของประเทศไทย หัวเว่ยมองหาผู้สมัครที่มีทักษะความสามารถเฉพาะด้านและมีใจรักในอุตสาหกรรมไอซีทีอย่างแท้จริง หัวเว่ยให้ความสำคัญกับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ รวมถึงโอกาสในการพัฒนาทักษะวิชาชีพและสร้างการเติบโตในสายอาชีพให้แก่พนักงานทุกคน ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้บุคลากรที่มีทักษะความสามารถได้พัฒนาทักษะของตนเองแล้ว ยังถือเป็นการต่อยอดพันธกิจ ‘เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย และร่วมสนับสนุนประเทศไทย’ ของหัวเว่ย (Grow in Thailand, Contribute to Thailand) ด้วยการเปิดโอกาสให้คนไทยมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ นำไปสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียนในอนาคตอีกด้วย หัวเว่ยยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรใหม่ ๆ สำหรับอีโคซิสเต็มดิจิทัล ผ่านความร่วมมือกับรัฐบาล พันธมิตร และสถาบันการศึกษาชั้นนำ เพื่อยกระดับบุคลากรที่มีทักษะรุ่นใหม่ ซึ่งจะมาร่วมกำหนดอนาคตของประเทศไทยและพลิกโฉมอนาคตดิจิทัลไปพร้อมกัน”