สมาร์ทโฟนแบบพับได้ คุณต้องการมันจริงๆ หรือ?
ครั้งหนึ่งเราเคยชื่นชอบโทรศัพท์ฝาพับอย่าง Motorola V3 ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในปัจจุบันกำลังจะกลับมาใช้ดีไซน์แบบนั้น พลิกฝาขึ้นเพื่อใช้งานและเปิดมันลงแล้วใส่กระเป๋า แต่ถามจริงๆ ว่า พวกเรายังต้องการสมาร์ทโฟนรูปแบบฝาพับนี้อยู่หรือเปล่า เพราะทุกวันนี้เราสามารถหยิบมันใส่กระเป๋าได้ทันที แถมไม่ต้องกลัวว่าหน้าจอจะเป็นรอยเลยด้วยซ้ำ
ตั้งแต่ช่วงปี 2019 เป็นต้นมา ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อย่าง Samsung, Huawei แม้กระทั่ง Lenovo พยายามผลักดันสมาร์ทโฟนที่เรียกกันว่า Foldable Phone แน่นอนว่ามันดูน่าตื่นเต้น หรูหรา เพิ่มอรรถประโยชน์มากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy Z Flip ราคา 44,900 บาท หรือ Motorola Razr ที่ชุบชีวิตใหม่ในมือของ Lenovo สนนราคาราว 46,500 บาท
เบื้องหลังการพัฒนาสมาร์ทโฟนดีไซน์ใหม่เหล่านี้มีที่มาอยู่หลายปัจจัย ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต่างใช้วิธีออกแบบโทรศัพท์โดยใช้ข้อมูลที่ได้จากผลสำรวจผู้บริโภค ส่งผลให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ มีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น มีอายุการใช้งานด้วยพลังงานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าเดิม และมีกล้องที่ให้ภาพคมชัดมากขึ้น ... ถูกต้อง สิ่งเหล่านี้คือ ความต้องการจริงๆ แต่โทรศัพท์แบบพับได้ มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ถามหาเลย
จุดเริ่มต้นของ Foldable Phone ยุคใหม่
ถ้ายังจำกันได้ หลายปีก่อน บริษัทเทคโนโลยีหลายรายพยายามคิดค้นหน้าจอแสดงผลที่สามารถดัดหรือบิดงอได้ และมันก็สำเร็จขึ้นมาจริงๆ ดังนั้นในเมื่อเทคโนโลยีจอภาพมันก้าวไปได้ จะเอาไปใช้กับทีวี มอนิเตอร์จอโค้ง หรือใช้แค่ขอบๆ ของสมาร์ทโฟนก็ดูจะไม่คุ้มค่า R&D ที่ต้องเสียไป การนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่มียอดจำหน่ายหลักพันล้านชิ้นต่อปีสิถึงจะคุ้มค่า
Foldable Phone ในยุคนี้ แม้ว่ามันจะเปี่ยมด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย แต่มันกลับมีปัญหาขนานใหญ่ที่ต่างจากโทรศัพท์ฝาพับในอดีตในเรื่องความทนทาน แม้จะมีไม่กี่รุ่นที่เจออย่างเช่น Galaxy Fold ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว ล่าสุดก็คือ Motorola Razr ที่ได้รับการตรวจสอบจากนักรีวิวว่า ใช้งานด้วยพลังงานแบตเตอรี่ได้ไม่นานและบานพับที่พังง่ายเกินไปหน่อย แถมมันยังไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ซ่อมได้โดยง่าย แค่เปลี่ยนแบตเตอรี่ 2 ก้อนยังต้อง "เกือบ" ถอดประกอบใหม่ทั้งหมด
ดีไซน์ของ Foldable Phone
สมาร์ทโฟนฝาพับรุ่นใหม่มีหลายรูปทรงและมีรูปแบบที่แตกต่างกัน อย่างเช่น Galaxy Fold และ Mate X มีสองหน้าจอประกบกัน เมื่อคุณเปิดมันออกจะกลายเป็นแท็บเล็ตจอกว้าง กรณีที่ยังปิดพับอยู่มันจะมีหน้าจอสัมผัสด้านนอกที่ใช้งานได้เหมือนสมาร์ทโฟนปกติ ขณะที่ Galaxy Z Flip และ Motorola Razr ขณะพับอยู่จะมีหน้าจอขนาดเล็กบนฝาด้านนอกเพื่อแสดง Notification หรือพรีวิวแอพฯ และเมื่อเปิดมันออกมาก็จะกลายเป็นหน้าจอสัมผัสขนาดมาตรฐาน อุปกรณ์เหล่านี้อาศัยบานพับแทบทั้งหมด ซึ่งมันเป็นส่วนที่มีการเคลื่อนไหว แน่นอนว่ามันจะเป็นองค์ประกอบที่เกิดความเสียหายนอกเหนือจากหน้าจอที่อาจแตกหักได้อยู่แล้วในทุกยุคสมัย
เทคนิคเบื้องหลังของ Foldable Phone
หน้าจอของสมาร์ทโฟนแบบพับได้จะใช้พาแนล OLED ที่มีความยืดหยุ่นและบางกว่าหน้าจอทั่วไป ด้วยเหตุนี้เราจึงได้สัมผัสสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอชที่มีความเพรียวบางมากขึ้น อย่างเช่น Apple Watch แต่มันบิดงอไม่ได้เนื่องจากถูกปิดทับด้วยคริสตัลแซฟไฟร์ที่มีความแข็งแรงสูง
การทำให้อุปกรณ์โค้งงอจำเป็นต้องละทิ้งความแข็งแกร่งของจอภาพ โดยทั่วไปแล้วจึงนำเอาชั้นพลาสติกมาปิดทับอีกชั้นหนึ่ง ด้วยเหตุนี้มันจึงเกิดรอยขีดข่วนหรือเจาะทะลุได้ง่ายกว่ากระจกพิเศษที่ใช้ปกป้องหน้าจอบนสมาร์ทโฟนทั่วไป (Samsung ให้ข้อมูลว่า พวกเขาใช้กระจกบางพิเศษที่พับได้กับ Galaxy Z Flip ผู้ใช้สามารถเปิดปิดได้มากถึง 200,000 ครั้ง แต่มีข่าวว่า ปิดจ๊อบตามรุ่นพี่ไปแล้ว)
Kyle Wiens หัวหน้าผู้บริหารของ iFixit เคยกล่าวว่า "ถ้าคุณใช้ปากกาลูกลื่นและกดหนักๆ ลงไปในหน้าจอ iPhone มันก็ยังใช้งานต่อไปได้ แต่หากคุณทำแบบเดียวกันบนหน้าจอแสดงผลแบบพับได้ นั่นคือ คุณกำลังจะฆ่ามัน"
Foldable Phone เป็นเพียงสินค้าแฟชั่นหรือจะก้าวมาเป็นสมาร์ทโฟนที่ทุกคนใช้ได้จริง ?
ในมุมของเรา เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนแบบพับได้นั้นน่าสนใจและคุ้มค่าที่จะเฝ้าจับตามอง แต่ควรจะรอให้อุปกรณ์เหล่านั้นเติบโตและสมบูรณ์แบบกว่านี้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ อย่างเช่น Smartwatch ในยุคแรกๆ ที่มีเฉพาะกลุ่ม Early Adopter ที่มีทุกอย่างพร้อม แต่ทุกวันนี้สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ดังนั้นคงจะเร็วเกินไปที่จะตั้งคำถามว่า สมาร์ทโฟนฝาพับจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเทคโนโลยีเหล่านี้อาจจะมีราคาถูกลงและมีความทนทานมากขึ้น รวมถึงประสิทธิภาพด้วย