เตรียมตัวอย่างไร หากต้อง Work from Home

ในขณะที่สถานการณ์ไวรัส Covid-19 ยังไม่มีวี่แววว่าจะคลี่คลายในเร็ววัน หลายบริษัทมีการปรับรูปแบบทำงานให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด ไปดูกันว่าสิ่งที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานที่บ้านมีอะไรบ้าง

การแต่งตัวและสภาพแวดล้อม

  1. สำหรับหลายคนแล้วการลุกขึ้นจากเตียงมานั่งทำงานในชุดนอนอาจเป็นเรื่องในฝัน (ที่อยากทำมานาน) แต่มันจะทำให้คุณรู้สึกขี้เกียจและผ่อนคลายเกินไป หรือบางครั้งอาจเผลอกด Video Call ทั้งๆ ที่สภาพยังดูไม่ได้ งานเข้าเลยนะ แนะนำให้แต่งตัวให้เหมือนวันไปทำงาน อาจจะลดจำนวนชิ้น หรือใส่ชุดที่ลำลองขึ้นมาหน่อยก็ได้


     
  2. จัดพื้นที่ทำงานให้เป็นสัดส่วน หรือถ้ามีห้องแยกมีประตูปิดชัดเจนก็จะดีมาก นอกจากจะช่วยให้มีสมาธิในการทำงานแล้ว ยังสามารถปิดประตูเมื่อถึงเวลาเลิกงานได้จริงๆ
     
  3. โต๊ะและเก้าอี้ที่บ้านอาจนั่งไม่สบายเท่าที่ออฟฟิศ แนะนำให้แบ่งเวลาพักเพื่อลุกยืดเส้นยืดสายบ่อยขึ้น หรือถ้ามีโรคปวดหลังเรื้อรัง อาจต้องลงทุนเก้าอี้ทำงานดีๆ ซักตัวในช่วงเวลานี้

อุปกรณ์และเทคโนโลยี

  1. อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีเสถียรภาพ ความเร็วขั้นต่ำไม่ควรน้อยกว่า 50/20 Mbps หรือมากกว่านี้ได้ยิ่งดีโดยเฉพาะงานที่ต้องมีการประชุมสาย Video Call บ่อยๆ
     
  2. พยายามใช้เทคโนโลยีที่มีใช้ในที่ทำงานเท่าที่จะทำได้ เช่น ถ้าต้องใช้จอมอนิเตอร์ 2 ตัว แท่นปรับระดับโน้ตบุ๊ก ปากกา Wacom ก็ให้ขอยืมกลับมาใช้ที่บ้านชั่วคราว


    Logitech C922 Webcam

     
  3. กล้องเว็บแคม สำหรับใครที่ใช้เครื่องพีซีหรือโน้ตบุ๊กที่ไม่มีกล้อง ในท้องตลาดมีหลายรุ่นหลายระดับราคาให้เลือก แต่ถ้าไม่อยากเสียเงินหลายรอบ แนะนำ Logitech C922 ที่คุณภาพคุ้มราคา จ่ายแล้วจบ


    Bose Noise Cancelling Wireless Bluetooth Headphones 700
     

  4. หูฟังตัดเสียงรบกวนดีๆ ซักตัว โดยเฉพาะใครที่ต้องประชุมทางโทรศัพท์และที่บ้านมีเด็กๆ วิ่งซนอยู่ตลอดเวลา (ช่วงนี้ตรงกับปิดเทอมพอดี) 
     
  5. เมาส์ดีๆ และแผ่นรองเมาส์พร้อมรองข้อมือนุ่มๆ จะช่วยลดการปวดข้อมือจากการทำงานวลานานๆ ได้

บริการออนไลน์สำหรับการสื่อสารและทำงานเป็นทีม

  1. Google Hangouts: เครื่องมือสำหรับการประชุมหลายสายแบบง่ายๆ รองรับการสนทนาด้วยวิดีโอพร้อมกันสูงสุด 25 คน รองรับการแชร์หน้าจอและการพิมพ์ข้อความแชท รองรับการทำงานบนอุปกรณ์หลากแพลตฟอร์ม ทั้ง iOS, Android, Windows, Mac OS


     
  2. Zoom Meetings & Chat: บริการออนไลน์ที่เด่นเรื่องประชุมทั้งแบบเสียงและวิดีโอ รองรับความละเอียดระดับ HD การแชร์หน้าจอหลายจอพร้อมกัน มีกระดานไวท์บอร์ดในตัว สามารภสลับภาพไปยังผู้พูดอัตโนมัติ มีห้อง Chat ที่สามารถแยกคุย 1:1 ได้ โดยแพลนการใช้งานแบบฟรีรองรับการประชุมพร้อมกันสูงสุด 100 คน แต่จะจำกัดระยะเวลาที่ 40 นาทีต่อครั้ง สมัครใช้งานง่ายแค่ใช้อีเมล์เดิมที่มีอยู่แล้วก็เริ่มต้นใช้งานได้ทันที


     
  3. Google Docs / Google Sheets: สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารและตารางคำนวน บริการนี้จะช่วยให้คุณและทีมงานทำงานกับเอกสารได้พร้อมกันโดยไม่ต้องส่งไฟล์แก้ไขไปมาให้วุ่นวาย มีฟีเจอร์แชทในตัว นอกจากนี้ยังรองรับการพิมพ์ตามเสียงพูด (เปิดที่เมนู Tools > Voice typing) ช่วยให้การบันทึกการประชุมหรือจดข้อมูลต่างๆ ทำได้สะดวกและเร็วขึ้นอีกขั้น



     
  4. Cloud Storage: บริการพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์แบบออนไลน์สำหรับใครที่ต้องเซฟไฟล์งานบ่อยๆ แต่ชอบลืม Flashdrive เป็นประจำ แค่โยนงานไว้ในไดรฟ์พิเศษที่จะถูกสร้างขึ้นหลังสมัครใช้งาน ก็สามารถเข้าถึงไฟล์ข้อมูลที่ซิงโครไนซ์อัตโนมัติได้จากทุกที่ทุกเวลา สามารถแชร์ไฟล์ได้ เหมาะสำหรับฟรีแลนซ์ที่มีเครื่องทำงานทั้งที่บ้านและชอบออกไปหาไอเดียทำงานนอกสถานที่กับโน้ตบุ๊กคู่ใจ ไม่ต้องกลัวลืมไฟล์งานหรือก๊อบปี้ไฟล์ไปมาอีกต่อไป บริการ Cloud Storage ยอดนิยมในปัจจุบันส่วนใหญ่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี (จำกัดพื้นที่) เช่น OneDrive, Google Drive, Dropbox