รีวิว Huawei FreeBuds 4i หูฟังไร้สายเสียงดี มีตัดเสียงรบกวน ราคาสามใบเทามีทอน!

Pros

เสียงสมดุลย์ทุกย่านความถี่
มีระบบตัดเสียงรบกวน
ไมโครโฟนเสียงคมชัด
กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP54
เคสชาร์จขนาดกะทัดรัด

Cons

ผิวมันวาวทำให้หยิบหูฟังจากเคสได้ยาก
ปรับระดับเสียงจากตัวหูฟังไม่ได้

Huawei FreeBuds 4i ไม่ได้แค่เป็นแค่การจับ FreeBuds 3i มาแต่งหน้าทาปากแบบผิวเผินตามรอบการเปลี่ยนเจนเนอเรชั่นทั่วไป แต่หัวเว่ยยังตั้งใจที่จะสร้างให้มันโดดเด่นจากบรรดาหูฟังไร้สายที่มีจำหน่ายมากมายในท้องตลาดด้วยการปรับปรุงคุณภาพเสียงจนกลมกล่อม มีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกมากมายรวมไปถึง ANC (Active Noise Cancellation) มาให้ในระดับค่าตัวที่เป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์ 

Key Specification

  • ขนาดหูฟัง: 37.5x21x23.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 5.5 กรัม/ข้าง
  • ขนาดเคสชาร์จ: 48x61.8x27.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 36.5 กรัม
  • ไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 10 มิลลิเมตร
  • เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2, Wear Detection, Pop-up pair (เฉพาะ EMUI10 ขึ้นไป)
  • เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน: Dynamic Active Noise Cancelling, Call Noise Cancellation
  • แบตเตอรี่หูฟัง: 55mAh
  • เล่นเพลงต่อเนื่อง: 10 ชั่วโมง (ANC off)
  • เล่นเพลงต่อเนื่อง: 7.5 ชั่วโมง (ANC on)
  • โทรสนทนา: 6.5 ชั่วโมง (ANC off)
  • โทรสนทนา: 5.5 ชั่วโมง (ANC on)
  • แบตเตอรี่เคสชาร์จ: 215mAh
  • พอร์ตชาร์จ: USB-C
  • ระยะเวลาการชาร์จ 1-100%: ประมาณ 50 นาที
  • ชาร์จด่วน: 10 นาที ฟังได้ 4 ชั่วโมง
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น: IP54 (ไม่เกิน 1 เมตร)
  • อุปกรณ์ในกล่อง: หูฟัง, เคสชาร์จ, Ear tip (S, M, L), สายชาร์จ USB-C
  • สี: ขาว, แดง, ดำ
  • ราคา 2,799 บาท

ดีไซน์ และการสวมใส่
ดีไซน์โดยรวมของ FreeBuds 4i ดูเหมือนจะได้รับแรงบันดาลใจจาก Airpods Pro มาพอสมควร (จริงๆ ก็แทบทุกยี่ห้อในตลาด) โดยเฉพาะถ้าใครชอบสีขาวถ้าบังเอิญว่ามี Airpods ใช้อยู่แล้วและกลัวหยิบผิดหยิบถูกอาจจะพิจารณาเลือกสีแดงหรือดำจะดีกว่า

เทียบกับ FreeBuds 3i แล้ว FreeBuds 4i จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย จุดสังเกตคือบริเวณก้านหูฟังที่หนาขึ้น มีเซ็นเซอร์ Wear Detection สำหรับตรวจจับการสวมใส่อยู่บริเวณปลายก้านทั้งซ้าย-ขวา แน่นอนว่ายังคงมาพร้อม Ear tip หรือจุกยางซิลิโคน 3 ขนาด (S ,M, L) ให้เลือกเปลี่ยนตามสรีระของผู้สวมใส่

 

ตัวบอดี้หูฟังยังคงออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มีความโค้งมนสวยงาม สวมใส่นานๆ ได้สบายไม่รู้สึกเกะกะรำคาญ และการเคลือบผิวแบบมันวาวแม้จะให้ความรู้สึกพรีเมียม แต่ก็ต้องแลกกับการหยิบจับที่อาจลื่นมือและการดึงหูฟังออกจากเคสที่อาจต้องสร้างความคุ้นเคยกันซักระยะ ทั้งนี้เพราะแม่เหล็กบริเวณปลายก้านมีแรงยึดดีมาก ข้อดีก็คือมั่นใจได้เลยว่าในระหว่างพกพาจะไม่มีการหลุดออกจากเคสกระเด็นหายไปไหนอย่างแน่นอน

ในส่วนของเคสชาร์จนั้นก็ได้รับการปรับดีไซน์ให้มีความโค้งมนดูแล้วนึกถึงก้อนหินริมสระว่ายน้ำตามรีสอร์ทหรูๆ ด้านหลังมีการปาดให้เรียบให้วางได้มั่นคง โดยในเอกสารเปิดตัวระบุว่ารูปทรงนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากหินบนหาดทรายสีดำทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งส่วนตัวแล้วก็มองว่าดูสวยงามดี แถมยังจับถือได้ถนัดมืออีกด้วย

 

อีกจุดหนึ่งที่ได้รับการปรับปรุงคือการมาพร้อมมาตรฐาน IP54 ที่สามารถรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นทั้งการกันน้ำและกันฝุ่น (FreeBuds 3i เป็น IPX4 กันน้ำกระเซ็นได้อย่างเดียว) ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การเปียกฝน เหงื่อ น้ำกระเด็น รวมไปถึงการกันฝุ่นละอองได้ในระดับหนึ่ง เรียกได้ว่าสวมใส่ใช้งานได้สบายหายห่วงทั้งระหว่างการเดินทางและการออกกำลังกาย

ใช้สะดวก มีทัชคอนโทรล, ANC และคุณภาพเสียงที่ดี
การควบคุม Huawei FreeBuds 4i สามารถทำได้ผ่านการสัมผัส โดยระหว่างใช้งานสามารถแตะค้างที่ตัวหูฟังเพื่อเปิด-ปิดโหมด ANC และ Awareness (โหมดสำหรับเปิดรับฟังเสียงภายนอกเพื่อความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง) และยังสามารถตั้งค่า Double Tap (แตะ 2 ครั้ง) ในแอพฯ Huawei Ai Life เพิ่มเติมสำหรับการควบคุมการเล่นเพลง ให้เล่น-หยุด หรือข้ามเพลงได้

เรื่องของคุณภาพเสียง บอกตามตรงว่าเราไม่ได้คาดหวังความเพอร์เฟ็กต์หรือขนาดของเสียงที่ใหญ่โตจาก FreeBuds 4i ที่ใช้ไดนามิคไดรเวอร์ขนาด 10 มม. แต่สิ่งที่ได้ยินนั้นยอมรับว่ามันมีความกลมกล่อม ไม่มีย่านความถี่ไหนโดดเด้งออกมาเป็นพิเศษ เสียงที่เปล่งออกมาจึงมีความสมดุลย์เป็นธรรมชาติ ฟังรื่นหู การถ่ายทอดรายละเอียดเพลงทำได้ดีทุกแนวไม่ว่าจะไทย เทศน์ ลูกทุ่ง ป๊อบ ฮิปฮอป แจส ฯลฯ เรียกว่าฟังได้ไม่ตะขิดตะขวง ยกเว้นใครที่คาดหวังเสียงเบสหนักๆ อาจจะผิดหวังไปบ้าง แต่ถ้าชอบเบสสไตล์อิ่มแน่น กระชับ ไม่พร่าบวมจนกลบชิ้นดนตรีอื่นๆ FreeBuds 4i ทำได้ดีไม่แพ้หูฟังไร้สาย True Wireless ชั้นดีในท้องตลาดแต่อย่างใด เผลอๆ ยังทำได้ดีกว่ารุ่นที่ราคาสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ


เปิด ANC ตัดเสียงรบกวนได้ทั้งขณะสนทนาและฟังเพลง
ในส่วนของเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนของ FreeBuds 4i นั้นมีให้ใช้งานทั้งในโหมดฟังเพลง และขณะสนทนา จากการทดสอบพบว่าการเปิด ANC ที่ใช้เทคนิคการปล่อยคลื่นเสียงหักล้างกับเสียงรบกวนภายนอกนั้นสามารถทำได้ในระดับที่น่าพอใจ เรียกว่ามันไม่ได้ตัดเสียงรบกวนออกจนหมดเกลี้ยง อาจจะมีเหลือบ้างบางๆ ซึ่งไม่ได้รบกวนการฟังหรือทำให้สุนทรีของเพลงลดลงแต่อย่างใด ในส่วนของการสนทนานั้นไมโครโฟนกับระบบ ANC ทำงานสอดคล้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถฟังเสียงสนทนาของปลายสายได้อย่างชัดเจนแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนอย่างริมถนน ในรถโดยสาร ฯลฯ ส่วนคู่สนทนาก็ได้ยินเสียงเราได้ชัดเจนเหมือนคุยอยู่ในห้องเงียบๆ เทียบกับค่าตัวของหูฟังแล้วเรียกได้ว่าเกินหน้าเกินตาไปมากอยู่เหมือนกัน

กลับมาดูเรื่องการเชื่อมต่อกันซักหน่อย Huawei FreeBuds 4i ยังคงมาพร้อมเทคโนโลยี Pop-up Pair ที่เรียกว่าสะดวกรวดเร็วมากๆ แต่ข้อแม้คือต้องใช้ร่วมกับสมาร์ทดีไวซ์ของหัวเว่ยที่ใช้ EMUI10 ขึ้นไป วิธีการก็แค่แค่เปิดฝาเคสชาร์จใกล้ๆ กับมือถือหรือแท็บเล็ตที่ต้องการเชื่อมต่อ ระบบก็จะจับคู่ ให้อัตโนมัติทันที ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ก็ใช้วิธีการจับคู่เชื่อมต่อ Bluetooth ตามวิธีปกติ ซึ่งจากการทดสอบจับคู่กับหลายๆ อุปกรณ์ทั้ง iOS และ Android ก็สามารถทำได้รวดเร็วทันใจไม่มีอะไรติดขัด

อย่างที่กล่าวถึงไปในตอนต้นเรื่องการตั้งค่าหูฟังเพิ่มเติมในแอพ Huawei AI Life ซึ่งไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าดาวน์โหลดแอพฯ จาก Huawei AppGallery หรือผ่านทางหน้าเว็บ Huawei Global โดยตรงแอพฯ จะทำงานได้สมบูรณ์กว่าดาวน์โหลดจาก Google Play Store (ยิง QR Code จากรูปด้านล่างนี้ก็ได้)

ในแอพฯ Huawei AI Life นอกจากจะสามารถแสดงสถานะแบตเตอรี่ของตัวหูฟังและเคสชาร์จได้อย่างละเอียดแล้ว เราสามารถทำการตั้งค่าฟังก์ชั่น Touch Control เพิ่มเติม จากเดิมที่ค่า default ตัวหูฟังจะมี Touch Control ให้ใช้ 2 รูปแบบคือ แตะสองครั้งเพื่อเล่นหรือหยุดการเล่น แตะค้างเพื่อเปลี่ยนโหมด ANC/Awareness/OFF โดยสามารถตั้งค่าแยกหูฟังด้านซ้ายและขวาให้มีฟังก์ชั่นต่างกันได้อย่างอิสระ น่าเสียดายเล็กน้อยตรงที่ไม่มีฟังก์ชั่นการแตะเพื่อเพิ่ม-ลดเสียงที่ตัวหูฟังได้ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบเฟิร์มแวร์และทำการอัพเดตได้จากที่นี่ได้ทันทีเช่นกัน

บทสรุปและความคิดเห็นของ TechMayday
อาจจะเรียกได้ว่า FreeBuds 4i เป็นหูฟังไร้สาย True Wireless ระดับกลางที่มีฟีเจอร์ครบๆ ในระดับราคาที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและคุณภาพเสียงที่ได้รับ มีแบตเตอรี่ที่อึดระดับที่ฟังต่อเนื่องยาวๆ ได้ทั้งวัน แถมยังผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 ไว้ใส่ใช้งานในชีวิตประจำวันรวมไปถึงการออกกำลังกายได้สบายๆ เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังราคาจับต้องได้ไว้ใช้งานเป็นชุดแรก หรือใช้เป็นชุดสำรองของหูฟังเทพก็ไม่ขี้เหร่ ใช้ประชุมตอน Work from Home หรือจะให้เด็กๆ ไว้ใช้ฟังเพลง-เรียนออนไลน์ช่วงโควิดก็ได้ ส่วนใครที่คาดหวังเสียงระดับพรีเมียมจากหูฟังระดับราคานี้แนะนำว่าให้มองข้ามไปรุ่นอื่นจะสบายใจกว่า

ขอบคุณ: หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย)