รีวิว Huawei MatePad 10.4 (2022) แท็บเล็ตครบเครื่อง ราคาสบายกระเป๋า

Pros

• ดีไซน์มีความพรีเมียม
• หน้าจอสีสันสดใส
• รองรับสไตลัสและสมาร์ทคีย์บอร์ด
• เสียงลำโพงน่าประทับใจ
• ใส่ SIM เชื่อมต่อเครือข่ายได้

Cons

• ไม่มี GMS
• ไม่รองรับ Netflix HD

Huawei MatePad 10.4 รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2022 ยังคงยอดเยี่ยมด้วยการอัดสเปคฮาร์ดแวร์มาแน่นๆ  เรียกว่าในบรรดาแท็บเล็ตราคาหมื่นต้นอาจจะหารุ่นอื่นที่มีฟีเจอร์ระดับพรีเมียมเทียบเท่านี้ไม่ง่ายเท่าไหร่

แต่จุดสำคัญที่ยังต้องพิจารณาให้ดีก็คือการหัวเว่ยยังไม่สามารถนำ Google Play Store รวมถึง Google Service กลับมาได้ และที่ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามสำหรับผู้ใช้งานโดยเฉพาะในฝั่งของแอนดรอยด์ว่า Huawei App Store นั้นสามารถทดแทนการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีเพียงพอหรือไม่

Specifications: Huawei MatePad 10.4 2022

  • ชนิด / ขนาดหน้าจอ: IPS LCD / 10.4 นิ้ว อัตราส่วน 16:10
  • ความละเอียดหน้าจอ: FullView Display 2000 x 1200 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 470 nits
  • ชิปประมวลผล: HUAWEI Kirin 710A (CPU: 4 × Cortex-A73 2.0 GHz + 4 × Cortex-A53 1.7GHz)
  • GPU: Mali G51
  • หน่วยความจำ RAM: 4GB
  • พื้นที่เก็บข้อมูล: 128 GB
  • การรองรับหน่วยความจำภายนอก: microSD สูงสุด 512GB
  • กล้อง: 8MP (หน้า) F2.0, 13MP (หลัง) F/1.8 พร้อม Auto Focus + LED 
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 5, Bluetooth 5.1, OTG
  • รองรับเครือข่าย: 2G GSM: B2/B3/B5/B8 / 3G WCDMA: B1/B2/B4/B5/B6/B8/B19 / 4G LTE FDD: B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B17/B18/B19/B20/B26/B28 / 4G LTE TDD: B38/B40/B41
  • ระบบเสียง: ลำโพง Quad speakers (บน-ล่าง ซ้าย-ขวา) ปรับแต่งเสียงโดย Harman / Kardon
  • ไมโครโฟน: 3 ตัว (บันทึก/ตัดเสียงรบกวน)
  • เซ็นเซอร์: Ambient light sensor, Compass, Gravity sensor, Gyroscope, Hall sensor, Status indicator
  • แบตเตอรี่: 7250 mAh รองรับ Huawei SuperCharge 22.5W
  • การชาร์จ: USB-C
  • ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0 
  • ขนาดตัวเครื่อง: 245.2 x 154.96 x 7.35 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก: 450 กรัม
  • สี: เทา Matte Grey
  • ราคา: 12,900 บาท

การออกแบบเน้นเรียบง่ายด้วยวัสดุพรีเมียม

แท็บเล็ตรุ่นนี้ยังมาพร้อมหน้าจอที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง Huawei Full View Display ความละเอียด FHD 2K (2000x1200 พิกเซล) อัตราส่วน 16:9.6 ถูกล้อมกรอบด้วยขอบสีดำที่ค่อนข้างบางและสมมาตรทั้งสี่ด้านดูทันสมัยและเข้ากับสีเทา Matte Gray ของตัวเครื่อง (รุ่นนี้มีให้เลือกสีเดียว) ตัวเครื่องขนาดเหมาะมือ 154.96 มม. x 245.2 มม. ขอบข้างเลือกใช้วัสดุโลหะจึงให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมและบางเพียง 7.35 มม. น่าเสียดายที่บอดี้ฝาหลังเป็นแค่พลาสติก แต่ก็ทำให้น้ำหนักของแท็บเล็ตโดยรวมค่อนข้างเบาแค่ 450 กรัมซึ่งส่งผลดีสำหรับการพกพา

บริเวณมุมบนซ้ายของฝาหลังติดตั้งโมดูลกล้องที่ดูเรียบง่ายธรรมดาและมีระดับความนูนไม่มาก ด้านข้างมีปุ่มเปิด-ปิด ปุ่มปรับระดับเสียง และพอร์ต USB-C 2.0 ที่นอกจากการชาร์จแล้ว พอร์ตนี้ยังใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกอย่างแฟลชไดรฟ์, SSD ไดรฟ์ รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้ ยกเว้นการต่อจอภาพภายนอก ในขณะที่ช่องเสียบ 3.5 มม. สำหรับหูฟังถูกตัดออกไปตามสมัยนิยม

กล้องธรรมดา แต่ลำโพงต้องยอมยกนิ้ว

อย่างที่เกริ่นไปตอนแรกว่าแท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมฟีเจอร์ระดับพรีเมี่ยมเหนือคู่แข่ง หนึ่งในนั้นคือลำโพงที่มีมาให้ทั้งหมดถึง 4 ชุด โดยเมื่อถือตามแนวนอนจะอยู่บริเวณด้านข้างซ้าย-ขวาด้านละ 2 ชุด เมื่อบวกกับเทคโนโลยี HUAWEI Histen 7.0 และปรับแต่งคุณภาพโดย Harman Kardon ที่ช่วยยกระดับมิติเสียงมากขึ้น จากการทดสอบดูภาพยนตร์และฟังเพลงสตรีมมิ่งให้คุณภาพเสียงที่ดี สามารถเร่งโวลุ่มได้ดังเกินระดับปกติทั่วไปโดยไม่พบอาการเสียงแตกพร่า เรียกว่าดีเกินหน้าแท็บเล็ตราคาใกล้เคียงกันไปไกล

ในส่วนของกล้องทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังสเปคอยู่ในระดับมาตรฐานคือ 8MP สำหรับกล้องหน้า และ 13MP สำหรับกล้องหลัง สามารถใช้ถ่ายภาพ-วิดีโอได้ดี ใช้งานประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือเรียนออนไลน์ได้สบายๆ และที่ถือว่าออกแบบมาได้ดีคือตำแหน่งของกล้องหน้าซึ่งจะอยู่กึ่งกลางพอดิบพอดีเมื่อใช้งานวิดีโอแชทโดยวางเครื่องแนวนอน ทั้งนี้ก็เพื่อให้รองรับสำหรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Smart Keyboard ได้อย่างลงตัวและให้ความรู้สึกเหมือนใช้แล็บท็อปมากๆ

เรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย MatePad 10.4 นี้จะไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้แต่จะมีฟีเจอร์จดจำใบหน้ามาแทน ซึ่งในการใช้งานจริงก็มีข้อจำกัดอยู่พอสมควรเพราะกล้อง (หน้า) จะสามารถสแกนใบหน้าได้สำเร็จก็เฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีแสงเพียงพอ ใครที่ชอบนอนเล่นในห้องปิดไฟมืดๆ อาจจะใช้งานลำบาก

รองรับการใช้งาน Huawei M-Pencil ด้วย: สำหรับใครที่ชอบขีดๆ เขียนๆ MatePad 10.4 สามารถซื้อ M Pencil Set ที่มาพร้อมอุปกรณ์ชาร์จมาใช้งานได้ โดยดินสอสามารถตอบสนองการใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาใดๆ

 

ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพสูง

ขุมพลังของ MatePad 10.4 ใช้โปรเซสเซอร์ HiSilicon Kirin 710A Octa Core ของ Huawei หน่วยความจำขนาด 4GB และสตอเรจ 128GB และรองรับการเพิ่มพื้นที่ด้วย microSD Card สูงสุด 512GB ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ทั้งคลื่น 2.4 และ 5 GHz และที่ดีมากๆ ก็คือในระดับราคานี้ยังสามารถใส่ซิมการ์ด (Nano SIM) เชื่อมสัญญาณ 4G LTE เพื่อมความคล่องตัวในการใช้งานออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลาได้อีกด้วย

ในส่วนของการเล่นเกมโดยทั่วไปที่ไม่ได้เน้นกราฟิกระดับ AAA เช่น PUBG Mobile, Asphalt 9 ถ้าเลือกปรับกราฟิกเป็นระดับ HD มาตรฐาน สามารถเล่นได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด และด้วยฟีเจอร์ Game Space ระบบจะช่วยปรับแต่งการทำงานเมื่อมีการเล่นเกมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การรักษาระดับเฟรมเรท หรือปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ระหว่างเล่นเกมได้

เรื่องของแบตเตอรี่มีมาให้จุใจถึง 7,250mAh เพียงพอสำหรับการใช้งานต่อเนื่องทั้งวัน แถมยังรองรับฟีเจอร์ชาร์จไว 22.5W HUAWEI SuperCharge ชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 2 ชั่วโมงเท่านั้น

อุปกรณ์เสริมไม่แพ้รุ่นใหญ่ รองรับ Huawei Super Device
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Huawei MatePad 10.4 รุ่นนี้คือการรองรับ Huawei Super Device ที่เป็นอีโคซิสเต็มการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ แบบไร้สายเพื่อขยายการใช้งานให้สะดวกสบาย เช่น ถ้าใช้ร่วมกับ HUAWEI MateBook Series จะสามารถขยายการแสดงผลได้อีก 3 โหมดคือ Mirror, Extend และ Collaboration โดยในโหมดหลังนี้ช่วยให้เราสามารถลากไฟล์ รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ ข้ามไปมาระหว่างแท็บเล็ตและแล็ปท็อปหรือระหว่างแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็วซึ่งถือว่าสะดวกมากๆ

ในขณะที่อุปกรณ์เสริมเพิ่มฟีเจอร์และความสะดวกการทำงานนั้น ปัจจุบันทาง Huawei มีอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ออกมาให้เลือกใช้งานแล้ว

  • HUAWEI Smart Keyboard
    แป้นคีย์บอร์ดที่ทำหน้านี้เป็นเคสฝาพับในตัว สามารถกางแล้วตั้งเป็นแท่นวางได้แต่ข้อจำกัดคือไม่สามารถปรับระดับความเอียงของจอได้ และแป้นพิมพ์ที่เป็นภาษาอังกฤษล้วน อย่างไรก็ตามตัวแป้นพิมพ์ก็ออกแบบมาให้พิมพ์สัมผัสได้สะดวกและเร็วกว่าการจิ้มหน้าจอ ตัวสมาร์ทคีย์บอร์ดจะเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตผ่าน Bluetooth นอกจากนี้ยังรองรับการสแกนอุปกรณ์เพื่อเชื่อมต่อผ่านฟีเจอร์ Huawei Share ได้ และในฝั่งขวามือของเคสยังสวิตช์เปิด-ปิดและพอร์ต USB-C สำหรับการชาร์จพลังงานในระหว่างใช้งานมาให้ด้วย


     
  • HUAWEI M-Pencil 2nd Generation 
    ดินสอ หรือสไตลัสสำหรับการใช้งานขีดๆ เขียนๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบวาดภาพหรือจดบันทึกผ่านหน้าจอ โดยดินสอนี้รองรับแรงกดที่ละเอียดถึง 4,096 ระดับ ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ดินสอจริงๆ โดยเฉพาะการวาดภาพหรือลงสี ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่ติดมากับตัวแท็บเล็ตก็จะมีทั้งแอพสำหรับวาดภาพ-ลงสี และแอพจดบันทึกที่มีฟีเจอร์ Annotate ช่วยให้การจดบันทึกลงบนเอกสารทำได้อย่างรวดเร็ว ที่สะดวกมากคือฟีเจอร์ Take Snippet ที่สามารถเลือกตัดภาพหรือคอนเท้นต์เฉพาะส่วนที่ต้องการบนหน้าจอพร้อมแก้ไขเพิ่มเติมบนชิ้นงานได้ทันที เพียงแค่ Double-tap ที่ตัวดินสอ อย่างไรก็ดี ตัวแท็บเล็ตจะไม่ได้มีแม่เหล็กบริเวณของสำหรับการเก็บหรือชาร์จไฟ และจะต้องใช้สาย USB-C ที่มีแท่นแม่เหล็กมาให้แทน

นอกจากอุปกรณ์ที่กล่าวมาแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อเมาส์เพื่อใช้งานเหมือนเป็นแล็ปท็อปที่สามารถคลิกสั่งงานได้เต็มรูปแบบอีกด้วย

ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0 แต่ยังมีข้อจำกัด

Huawei MatePad 10.4 รุ่นนี้ยังถูกจำกัดไม่ให้ใช้งาน Google Mobile Services (GMS) และต้องพึ่งพา สโตร์ของหัวเว่ยอย่าง AppGellery ในการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมไปถึง HUAWEI Mobile Services (HMS) ที่มาทดแทนฟีเจอร์ต่างๆ ของ Google ที่ขาดหายไป

โดยปัจจุบันแอพต่างๆ ใน AppGellery ก็มีแอพยอดนิยมครอบคลุมทุกหมวดที่เราใช้งานกันประจำแทบทุกตัวทั้ง Facbook, Tiktok ไม่เว้นแม้แต่แอพธนาคาร แอพสั่งอาหาร แอพทำงาน รวมไปถึงเกมต่างๆ หรือถ้าหาไม่เจอในสโตร์นี้ระบบก็จะนำทางไปยังแหล่งดาวน์โหลดไฟล์ APK เพื่อมาติดตั้งได้แต่อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องฟีเจอร์ในแต่ละแอพซึ่งอาจใช้งานได้ไม่สมบูรณ์อยู่บ้าง เช่น แอพ Netflix ที่ไม่สามารถปรับความละเอียดการรับชมได้สูงกว่า SD ได้ซึ่งในจุดนี้อาจต้องรอทาง Huawei อัพเดตใน AppGellery ในอนาคต

บทสรุปและความคิดเห็นของ TechMayday
ถือเป็นแท็บเล็ตที่สมบูรณ์แบบในตัวเองแม้จะไม่มี GMS มาให้แต่แค่ปรับตัวเล็กน้อยก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย โดยเฉพาะการมีอุปกรณ์เสริมออกมารองรับยิ่งทำให้ Huawei MatePad 10.4 สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ไม่ว่าจะทำงาน เรียนออนไลน์ เล่นเกมเบาๆ หรือวาดภาพ ในส่วนของฮาร์ดแวร์ก็เรียกได้ว่าเอาอยู่ในการใช้งานทั่วไปและเหมาะสมกับระดับราคานี้อย่างไม่ต้องสงสัย