BenQ Mobiuz EX2710R: จอคอมสำหรับคอเกมสายแคชชวล ดีทั้งเล่นเกมและรับชมคอนเทนต์

PROS

รีโมทคอนโทรลใช้งานได้ดีมาก
แสดงสีสันภาพได้อย่างสดใส
มีพอร์ต USB 3.0
มีฟังก์ชันถนอมสายตา
ปรับระดับความสูงของจอภาพได้

CONS

ไม่มีพอร์ต MiniDP
จอภาพไม่สามารถปรับหมุนได้
กำลังขับเสียงช่องต่อ 3.5 มม.ค่อนข้างต่ำ

ถ้าใครเป็นนักเล่นเกมที่ค่อนข้างจริงจังอยู่ซักหน่อยจะทราบดีว่า มอนิเตอร์เกมมิ่งแบรนด์ Zowie จาก BenQนั้นมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในหมู่นักเล่นเกมสาย eSports มาอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นเพราะแบรนด์ Zowie เป็นมอนิเตอร์เกมมิ่งสายประสิทธิภาพ พัฒนาเพื่อการแข่งขันเกมมากกว่าการนำเสนอความดื่มด่ำของภาพและเสียงผ่านบรรยากาศในเกม รวมถึงความยอดเยี่ยมในด้านการแสดงผลภาพเพื่อความบันเทิงด้านอื่นๆ

จากเหตุผลข้างต้นจึงเป็นที่มาของการเปิดตัวมอนิเตอร์เกมมิ่งตระกูล Mobiuz ภายใต้แบรนด์ BenQ ในปี 2020 แน่นอนว่ามอนิเตอร์เกมมิ่งที่คุณได้เห็นก่อนคลิกอ่านมาถึงตรงนี้ไม่ใช่รุ่นของปี 2020 แต่เป็นรุ่นที่เปิดตัวใหม่ล่าสุดในปีนี้ จากสเปคคร่าวๆ และฟีเจอร์ของ MobiuzEX2710R เราสัมผัสได้ว่า เบนคิวตั้งใจถ่ายทอดเทคโนโลยีจอมอนิเตอร์ที่มีมาใส่ไว้ทั้งหมด ทั้งฟีเจอร์ HDR การใช้พาแนลที่ให้ขอบเขตสีได้กว้างหรือแม้กระทั่งฟังก์ชันถนอมสายเช่น B.I+ หรือ Low Blue Light

Specification

  • 27 inches, 2560x1440 pixel, 16:9 Ratio
  • VA Panel, Refresh Rate 165 Hz,Curvature 1000R
  • Pixel Density 108.79 PPI, 0.233 mm. Dot Pitch
  • 4000:1 Contrast Ratio, Response Times1ms MPRT
  • HDR10,VESADisplayHDR 400
  • Brightness 300nit, Peak 400nit
  • 90% DCI-P3 (typical value)
  • 2xHDMI 2.0, 1xDisplayPort 1.4, 1xHeadphone jack
  • 1xUSB Type B (Upstream), 2xUSB 3.0
  • Speaker 2.1 Channel (2Wx2 + 5W woofer)
  • TÜV Rheinland Low Blue Light
  • Flicker Free certification
  • AMD FreeSync Premium Pro technology
  • RGB Customizable lighting
  • Price: 20,900 Baht, Warranty 3 Years

จัดมาเต็มแบบฉบับเกมมิ่ง โดยเฉพาะขาตั้ง V-Shape
ดีไซน์ของ MobiuzEX2710R ยังคงมีความเรียบง่ายคล้ายจอ Zowie โดยหน้าจอโค้ง 1000R ขนาด 27 นิ้วนั้นไม่มีแม้แต่โลโก้หรือชื่อแบรนด์ใดๆ ยกเว้นสกรีน HDRi ให้กับปุ่มลัดปรับโหมด HDR ทางมุมขวา ใต้ขอบจอภาพติดตั้งเซนเซอร์วัดแสงภายในห้อง ประกบกับขาตั้งจอภาพทรง V-Shape ที่ดีไซน์มาได้อย่างมีมิติด้วยสีเงินและผิวเท็กซ์เจอร์สีแดงอมส้มที่ตัดกับแกนขาตั้งสีดำ ดูแข็งแรงบึกบึนเอามากๆ

BenQ MobiuzEX2710R ใช้พาแนล VA ความละเอียดระดับ 2K และสนับสนุนรีเฟรชเรท 165 Hzแน่นอนว่า ยังคงเป็นจอสัดส่วน 16:9 ซึ่งจากความรู้สึกในการใช้งานเมื่อเทียบกับจอขนาด 24 นิ้วแล้วมันให้ความรู้สึกที่ใหญ่เต็มตากว่าเดิมมาก มุมมองในด้านข้างเพิ่มมากขึ้น และโอบรับสายตาด้วยความโค้งเล็กน้อย ขณะที่เรื่องความละเอียดในการแสดงผลทำได้ดีกว่าจอ Full HD ขนาด 24 นิ้วเล็กน้อย (ความหนาแน่นของพิกเซล 108.79 PPI) ส่วนขนาดพิกเซลหรือ dot pitch ต่างกันเล็กน้อย (0.233 มม. ต่อ 0.28 มม.) 

ขาตั้งและแกนขาตั้งถือว่ามีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ใช้พื้นที่บนโต๊ะพอสมควร การติดตั้งไม่มีอะไรซับซ้อน สามารถติดตั้งเมาท์ VESA ขนาด 100x100 มม.ได้เลยเพียงแค่ขันน็อต 4 ตัวเท่านั้น ตัวขาตั้งสามารถปรับระดับความสูงได้ 10 เซนติเมตร ขณะที่การหันซ้ายขวาสามารถทำได้ไม่มากนัก +- 15 องศา นอกเหนือจากนั้นปรับก้มเงยและเอียงซ้ายขวาได้เล็กน้อย ถือว่าเป็นขาตั้งที่ออกแบบตามหลัก Ergonomic ช่วยให้ผู้ใช้ปรับหน้าจอให้เข้ากับมุมมองที่ต้องการได้ง่าย อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ใช้งานกับโต๊ะที่มีระยะลึกไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตรและกว้าง 100 เซนติเมตร หากเล็กกว่านี้จะเหลือพื้นที่บนโต๊ะน้อยเกินไปจนวางคีย์บอร์ดและเมาส์ได้อย่างจำกัด

ด้านหลังใช้สีเงินด้านตัดกับผิวบอดี้สีดำทั้งในส่วนของแผงลำโพงซับวูฟเฟอร์และแกนขาตั้ง เสริมด้วยเส้นไฟ LED แบบปรับสีได้จาก OSD เพียงแต่เรารู้สึกว่าแสงไฟนั้นมีความสว่างน้อยเกินไปที่จะส่องไปยังผนังด้านหลังให้เห็นได้อย่างเด่นชัด แต่ถ้าเป็นไปได้นอกจากเพิ่มความสว่างแล้ว น่าจะติดไฟส่องมายังพื้นโต๊ะด้วยจะสวยงามขึ้นอีกมาก

เชื่อมต่อได้สะดวก ทั้งภาพ เสียง และข้อมูล
มาตรฐานของพอร์ตแสดงผลที่เห็นมีเพียง 2 มาตรฐาน คือ HDMI 2.0 และ DP 1.4 เราเสียดายที่ไม่มีพอร์ต miniDVมาด้วย ถึงอย่างนั้นในแง่ของจำนวนถือว่าน่าพอใจแล้ว และสายเคเบิ้ลต่างๆ ทั้ง USB-B Uplink,HDMI, DP 1.4 มาให้ครบแล้ว

รูปแบบการใช้งานที่แนะนำคือ ควรใช้งาน Display Port เป็นหลักกับเครื่องพีซี ส่วน HDMI เอาไว้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นอย่างเช่น เกมคอนโซล เหตุผลก็คือ หากคุณใช้ HDMI 2.0 จะใช้ค่ารีเฟรชเรทได้เพียง 144 Hz ขณะที่ Display Port ใช้งานได้เต็มที่ 165 Hz นอกจากนั้นแล้วโดยส่วนตัวชื่นชอบจอมอนิเตอร์ที่มีพอร์ต USB 3.0 เพราะทำให้คุณสามารถรวมการเชื่อมต่อของพอร์ตชนิดนี้เอาไว้บนโต๊ะได้เลย เพียงแค่มี USB 3.0 Hub เพิ่มอีกสักชิ้น

OSD ใช้ง่าย แค่ต้องเข้าใจ แถมหมัดเด็ด รีโมทคอนโทรล

กรณีที่คุณไม่มีปัญหากับ Color Mode สำเร็จรูปที่มีมาให้ก็ไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระบบ OSD ของ BenQ MobiuzEX2710R เพียงแค่กดเลือกโหมดที่เหมาะแก่การใช้งานผ่านปุ่มจ็อกกิ้งเป็นอันเสร็จสิ้นและอาจปรับความสว่างเล็กๆ น้อย โดยโหมดสีเหล่านี่มีให้เลือกทั้งตามประเภทของเกมอย่าง Racing Game,FPS, RPG หรือฝั่งฟีเจอร์ HDR เช่น GameHDRi, Cinema HDRi, Display DHR ซึ่งเข้าได้จากปุ่มลัดทางขวามือของจอ นอกจากนั้นก็ยังมีโหมดอย่าง sRGB, Custom, ePaper, M-Book ให้เลือกใช้งาน

แต่หากว่าColor Mode เหล่านั้นยังไม่ให้ความสบายตา นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้เงื่อนไข/ข้อจำกัด อธิบายง่ายๆ ก็คือ Color Mode หรือโหมดแสดงผลทุกตัวเป็นเสมือนกึ่งค่าพรีเซ็ต สามารถปรับแต่งในรายละเอียดเพิ่มเช่น Brightness, Contrast, Black eQualizer, Light Tuner, Color Vibrance, Sharpness ฯลฯ จากเมนูหลัก แต่บางหัวข้อจะถูกจำกัดเอาไว้ แถมแต่ละโหมดสีจะอนุญาตให้ปรับแต่งได้ไม่เหมือนกัน ส่วนกรณีของฟีเจอร์ Eyecare ก็มีความคล้ายคลึงกัน เปิดใช้งานไม่ได้ในโหมดสี sRGB และบางโหมดของกลุ่ม HDR แถมบางโหมดก็เปิดได้เฉพาะ Low Blue Light, Color หรือไม่ก็เปิดใช้งาน B.I+ ได้ ขณะที่โหมด Display HDR ก็ปิดฟีเจอร์ Eyecare ไปเลย

อย่างไรก็ดี ในโหมดสำคัญๆ อย่าง FPS หรือ RPG ผู้ใช้สามารถปรับค่า AMA หรือ Advanced Motion Acceleration และ  Blur Reduction เพื่อช่วยลดอาการภาพเหลื่อมและภาพเบลอจากการแสดงผลที่รวดเร็วของเกมเพิ่มเติมได้

สิ่งที่ประทับใจเรามากที่สุดในหัวเรื่องนี้ก็คือ การที่จอมาพร้อมรีโมทคอนโทรล สามารถใช้งานทดแทนปุ่มจอยสติ๊กในการเข้าถึงเมนู OSD ได้เลย ช่วยเพิ่มความสะดวกในการปรับโหมดการแสดงผลที่ต้องการในทันที โดยเฉพาะการเปลี่ยนโหมดเสียง การเปลี่ยนโหมดการแสดงผลเกม หรือแม้กระทั่งโหมด HDRi อย่างเช่น อยากจะดู Netflix ก็เปลี่ยนไปที่ Cinema HDR ได้ทันที

ลำโพงคู่พร้อมซับให้มิติเสียงได้เกินคาด

ชุดลำโพง 2.1 พร้อมซับวูฟเวอร์ที่เบนคิวใช้ชื่อว่า treVoloไม่ได้มีจุดเด่นในเรื่องการให้เสียงเบสหนักแน่น หรือเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดในทุกๆ ย่านความถี่ เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องขนาดไดรเวอร์ของลำโพง แต่สิ่งที่treVolo มอบให้ก็คือ มิติเสียงที่ช่วยให้การเล่นเกมหรือดูภาพยนตร์เป็นได้อย่างสนุกสนานด้วยระบบประมวลผลเสียงดิจิตอลภายในจอมอนิเตอร์ไม่ต้องใช้ลำโพงภายนอก สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ สัญญาณเสียงจากช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรมีกำลังขับที่ค่อนข้างต่ำ เพียงพอแค่ขับหูฟังอินเอียร์ทั่วไปได้พอดี นอกจากนั้นการสังเคราะห์เสียงจากระบบประมวลผลเสียงดิจิตอลก็ไม่ได้มีผลใดๆ ต่อช่องต่อนี้เลย นอกจากการ Mute เสียงและการปรับเพิ่มลดความดังเสียง

ขอบเขตสีที่ดีสำหรับคอนเทนต์ความบันเทิง
แม้ว่าจอ BenQ MobiuzEX2710R จะระบุขอบเขตสีเอาไว้เพียง 90% DCI-P3 และเป็นมาตรฐานของวงการผลิตภาพยนตร์ดิจิทัลโดยไม่มีการอ้างถึงมาตรฐานอื่นๆ เพื่อยืนยันความแม่นยำของสีอย่างค่า Delta E แต่จากการมองเห็นภาพจากหน้าจอในโหมดสีต่างๆ แล้วก็แทบจะไม่มีอะไรต้องติติง เพราะการถ่ายทอดสีสันนั้นเข้มข้นและสดใสมาก แม้ว่าจะอยู่ในโหมด sRGB ในแง่ของความบันเทิงแล้วเรื่องความแม่นยำของสีนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับทุกคน เพราะการแสดงสีของมอนิเตอร์ในยุคนี้มีมาตรฐานที่ดีขึ้นกว่าในอดีตมาก 

จากมุมมองของเรา การแสดงสีสันระดับนี้ ถือว่าเกินพอแล้วสำหรับการแสดงผลเกมและการรับชมคอนเทนต์ต่างๆ แน่นอนว่าขยายไปถึงการใช้งานด้านการตัดต่อวิดีโอหรือตกแต่งรูปภาพได้ด้วย ถึงอย่างนั้นการที่มันเป็นจอโค้งทำให้การมองเห็นภาพที่มีส่วนผสมของเส้นตรงผิดเพี้ยนไปและนั่นคือ อุปสรรคสำคัญ ยกเว้นว่าไม่ใช่งานที่ต้องการความแม่นยำถูกต้องระดับมืออาชีพ

จุดอ่อนอย่างหนึ่งของพาแนล VA ที่เคยมีอย่างมุมมองจากด้านข้าง ภาพมักจะไม่มีความสมบูรณ์เท่ากับการมองจากมุมตรง 90 องศา ภาพที่มองเห็นจะมีสีสัน ความสว่าง และคอนทราสต์เปลี่ยนไป แน่นอนว่าสำหรับจอ BenQ MobiuzEX2710R ยังคงเกิดขึ้น แต่เป็นระดับที่น้อยเมื่อเทียบกับจอพาแนล VA อีกหลายๆ รุ่นในตลาด ภาพที่มองเห็นยังคงสมบูรณ์ที่น่าพอใจ มีการเปลี่ยนแปลงของสีภาพและความสว่างไปบ้างเล็กน้อย

165 Hz ให้เกมเพลย์ที่ไหลลื่น แต่ไม่ได้ลอง AMD FreeSync Premium Pro
ค่ารีเฟรชเรท 165 Hz บวกกับการตอบสนองภาพ 1 มิลลิวินาทีแบบ MRPTถือว่าเป็นสเปคที่อยู่ในระดับกลางๆ ที่เพียงพอแล้วสำหรับการเล่นเกมทุกประเภทรวมถึงเหล่าเกม FPS ถึงแม้ว่าความเร็วตอบสนองภาพจะช้ากว่าแบบ GTG ระดับ 1 มิลลิวินาที ทว่าในการเล่นเกมสุดยุ่งเหยิงอย่าง Doom Eternalที่มีเกมเพลย์เร็วๆ นี้ก็ไม่ได้มองเห็น Ghosting หรือภาพเบลอเกิดขึ้นในระดับที่สังเกตได้

ในกรณีของเกมที่สนับสนุน HDR อย่าง Battlefield V จอมอนิเตอร์ BenQ MobiuzEX2710R จะเปิดเข้าสู่โหมด HDR โดยอัตโนมัติไม่ใช่แบบ Emulated หรือจำลอง สิ่งที่ตามมาก็คือ คุณสามารถปรับโหมด HDRi ได้เพียงอย่างเดียวในการปรับโทนสีตามที่คุณชอบ หากมันสว่างเกินไป คุณจะต้องเข้าไปปรับจากตัวเกมแทนเช่นเดียวกับการปิดโหมดการทำงาน HDR ถ้าคุณไม่ชอบมัน

จากประสบการณ์ที่สัมผัสจากเกม Battlefield V ในโหมด HDR บรรยากาศในเกมที่สัมผัสได้จากภาพนั้นเปลี่ยนไปชัดเจน รายละเอียดในส่วนเงามืดถูกเปิดออกมาให้เห็นชัด สมจริงกว่าเดิม ทั้งยังช่วยเพิ่มการมองเห็นศัตรูภายใต้เงาสลัวๆ ได้ดีขึ้น ส่วนความสนุกนั้นเต็มเปี่ยมกว่าจอมอนิเตอร์ขนาด 24 นิ้วอย่างชัดเจน

จอ BenQ MobiuzEX2710R ใช้พาแนล VA ที่มีจุดอ่อนเรื่อง Strobe Crosstalk หรือภาพเบลอจากภาพเคลื่อนไหวของวัตถุที่รวดเร็ว การเปิดใช้เทคโนโลยี AMA และ Blur Reduction ช่วยลดปัญหาเรื่องนี้ลงไปเพียงเล็กน้อย นอกจากนั้นการเกิด Strobe Crosstalk ระดับนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้สำหรับการเล่นเกม เนื่องจากสายตาของมนุษย์ไม่สามารถสังเกตเห็นการเหลื่อมของภาพนี้ได้เลย เพราะมันเกิดขึ้นรวดเร็วมากจึงไม่มีอะไรต้องกังวล

บทสรุปและความคิดเห็น
สำหรับเราแล้ว BenQ MobiuzEX2710R ถือเป็นจอเกมมิ่งที่ดีตัวหนึ่งสำหรับคอเกมสายแคชชวล ด้วยคุณภาพการแสดงผลที่ทำได้ดีอย่างครอบคลุมในทุกๆ หัวข้อ ทั้งการเล่นเกม การแสดงผลภาพคอนเทนต์วิดีโอ เรียกได้ว่า ตอบโจทย์ความบันเทิงได้หลากหลาย แต่ก็ยังมีหลายๆ จุดที่ควรจะทำได้ดีกว่านี้ และบางจุดก็ควรแก้ไขอย่างเช่น เส้นไฟ LED ด้านหลังที่ให้แสงสว่างน้อยเกินไป ในมุมของเราแล้ว ควรย้ายไปไว้ใต้ขอบจอเพื่อให้ส่องลงไปบนพื้นโต๊ะดีกว่า สิ่งสำคัญอีกอย่างที่จะทำให้ใช้งานจอตัวนี้ได้เต็มความละเอียดก็คือ เครื่องพีซีที่มีประสิทธิภาพสูงพร้อมกับการ์ดแสดงผลที่รันเกมบนความละเอียด 2K ได้ราบรื่น อย่างเช่น Geforce RTX2070 Super หรือ RTX 3060 ขึ้นไป รวมถึงฝั่ง Radeon RX6700 XT ขึ้นไปส่วนการ์ดรุ่นต่ำกว่านี้ก็ใช้งานได้เช่นกัน อย่างการ์ดระดับกลางอย่าง GTX1660 แต่มันก็จะทำให้คุณไม่ได้สัมผัสอรรถรสของเกมผ่านภาพที่คมชัดสวยงามและลื่นไหลด้วยเฟรมเรตสูงๆ ได้อย่างเต็มที่

ข้อมูลเพิ่มเติมhttps://bit.ly/2YDHpSK

ขอขอบคุณ: BenQ Thailand