รีวิว Dell XPS 15 9500 : ดีไซน์เกือบเพอร์เฟค พร้อมสุดยอดหน้าจอแสดงผล

PROS

หน้าจอคุณภาพสูงมาก
วัสดุตัวเครื่องดีมาก
พอร์ต Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต
มี Finger Printer Scan
หน้าจอสัมผัสตอบสนองการสั่งงานได้ดี

CONS

ไม่มีพอร์ต USB-A

ไม่ว่าจะกี่ปีล่วงเลยมา โน้ตบุ๊กเดลล์ตระกูล XPS ยังคงความยอดเยี่ยมและพรีเมียมโดยตลอด แน่นอนว่า XPS 15 9500 ก็ยังคงออกแบบในแนวทางเช่นนั้นและเน้นกลุ่ม Prosumer เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวเครื่องที่บางเฉียบ ใช้วัสดุเกรดดีในทุกๆ ส่วนของตัวเครื่อง แทร็กแพดขนาดใหญ่ตอบสนองการใช้งานได้น่าประทับใจ หน้าจอแบบสัมผัสแสดงขอบเขตสีระดับท็อปถึง 100% Adobe RGB  รวมถึงระบบเสียงขนาบด้านข้างแผงคีย์บอร์ดที่ให้เสียงดังกังวาลมากกว่าโน้ตบุ๊กส่วนใหญ่ในตลาด อธิบายให้ง่ายๆ ก็คือ มันมีความใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊กในอุดมคติมาก

Key Specifications (Dell XPS 15 9500)

  • ราคาโดยประมาณ: 79,900 บาท
  • Intel Core i7 10750H   2.6– 5.0 GHz (6C /12T)
  • NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti  With 4GB GDDR
  • 16GB DDR4 @2988 MHz Dual CH
  • Toshiba KIOXIA NVMe SSD 512GB
  • 15.6 inch (3,840x2,400 pixels) Adobe 100% Color Space
  • 2x Thunderbolt 3, 1x USB Type-C 3.1
  • SD Card Reader, 3.5mm  Audio Combo Jack
  • Wi-Fi 6 Killer AX1650s-160MHz, Bluetooth 5.0, Finger Print Sensor
  • Lithium-Polymer, 86 Wh
  • Windows 10 Home Edition

โน้ตบุ๊ก Dell XPS 15 9500 ตัวนี้ยังไม่ใช่รุ่นสูงสุดของตระกูล เนื่องจากยังมีรุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Core i9 Gen 10 ในแง่ของการออกแบบตัวเครื่อง Dell XPS 15 9500 มีการเปลี่ยนแปลงหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ InfinityEdge display ที่มีสัดส่วนแบบ 16:10 และมีขอบบางทุกด้านจากเดิมมีสัดส่วน 16:9 ด้วยเหตุนี้ขนาดของโน้ตบุ๊กจะมีขนาดที่เล็กลงกว่าโน้ตบุ๊กขนาด 15.6 นิ้วทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น Legion Y540-15IRH มีความยาว 358 มม. ขณะที่ Dell XPS 15 (2020) ยาวเพียง 344 มม. ส่วนความกว้างก็ต่างกันถึง 3 เซนติเมตร (260: 230 มม.)

รายละเอียดของการออกแบบแต่ละส่วน

Dell ยังคงเลือกใช้อะลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์กับตัวเครื่องของ Dell XPS 15 (2020) เห็นได้ว่า การกัดรูปพื้นผิวด้านข้างต่างๆ นั้นจะถูกทำด้วยเทคนิค CNC ผิวเหล่านั้นราบเรียบ เงางาม ตัดกับผิวภายในสีดำเป็นอย่างดี แน่นอนว่า ผิวสัมผัสของมันนั้นก็นุ่มนวลเอามากๆ ด้วย สิ่งที่เราชอบอย่างหนึ่งก็คือ การใช้ฟอนต์อักษรบนแผงคีย์บอร์ด เส้นอักษรบางสวยงาม ไฟแบ็คไลต์ลอดออกมาอย่างสม่ำเสมอ มองด้วยตาเปล่าเราค่อนข้างคุ้นเคยกับฟอนต์ที่ใช้ ซึ่งใกล้เคียงกับฟอนต์ตระกูล Hellvetica


แม้ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊กกลุ่ม Prosumer แถมออกแบบให้มันกึ่งๆ Work Station ด้วย แต่ก็ยังไม่มีปุ่มชุดตัวเลข พื้นที่ว่างจากแผงคีย์บอร์ดก็ถูกแทนที่ด้วยลำโพงที่หันทิศทางเสียงขึ้นด้านบน ในมุมของเรา มันดูแปลกๆ เมื่อพื้นที่ลวดลายของคาร์บอนไฟเบอร์หายไป ถึงอย่างนั้นผลลัพธ์ของลำโพงก็น่าประทับใจ ภาพรวมของเสียงนั้นทิ้งห่างโน้ตบุ๊กทั่วไปในตลาดหลายขุมเลย สังเกตว่า ในปีนี้มีโน้ตบุ๊กพรีเมียมหลายตัวหันมาใช้การจัดวางลำโพงลักษณะนี้แทนการหันทิศทางลงด้านล่าง สังเกตปุ่มมุมขวาสุด เป็นตำแหน่งของปุ่มเพาเวอร์และเซนเซอร์ลายนิ้วมือ การกดปุ่มด้วยความเร็วและน้ำหนักระดับการพิมพ์ปกติไม่ทำให้มันทำงานได้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลการสัมผัสโดนโดยไม่ตั้งใจ


จากภาพคุณจะมองเห็นเลย์เอาต์คีย์บอร์ดชัดขึ้น ปุ่มเปลี่ยนภาษาที่เราคุ้นเคยมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ปุ่มคีย์ลัดด้านบนกดใช้งานได้ทันที ขณะที่ปุ่ม Fn จะมีไว้เพื่อใช้งานปุ่ม F1-F12 นอกนี้ ปุ่มแต่ละปุ่มจะมีระยะห่างราว 2 มิลลิเมตร ระยะการกดหรือ Travel Key ของปุ่มถือว่า ลึกกว่าโน้ตบุ๊กหลายๆ ตัวที่เราเคยสัมผัส ถึงอย่างนั้นมันก็นุ่มนวลและกดได้อย่างมั่นคง

ส่วนแทร็กแพด มีขนาดใหญ่มากประมาณ 15x9 ซม. ใช้งานได้ดีแม้ว่าปลายนิ้วจะเปียกชื้น กดแป้นค้างเพื่อย้ายไอคอนก็สามารถลากไปได้ทั่วทั้งแผ่น ไม่เว้นแม้แต่ขอบ นอกจากนั้นยังเป็นทัชแพดแบบ Precision Touchpad ตอบสนองการสั่งงานแบบ Gesture ได้อย่างสมบูรณ์และไหลลื่น


บานพับของโน้ตบุ๊กไม่สามารถพับกางลงไปได้มากกว่าที่เห็น ถึงอย่างนั้นการตอบสนองการเปิดของมันหรือความมั่นคงก็อยู่ในขั้นที่ดีมาก มีระบบล็อกการเปิดฝาโดยไม่ตั้งใจด้วยขอบแม่เหล็กยาวด้านบนขอบจอ สามารถเปิดได้ด้วยมือเดียวไม่สะดวกนัก เนื่องจากไม่มีรอยบากหรือขอบใดๆ ให้ปลายนิ้วเกาะได้เลย นอกจากนี้ลมร้อนจากภายในเครื่องจะถูกถ่ายออกด้านหลังเครื่องลอดใต้บริเวณกรอบหน้าจอออกไป ไม่กระจายเข้ามาใต้จอเหมือนกับโน้ตบุ๊กหลายๆ รุ่น

สุดยอดสีสันและความละเอียด แถมสว่างเอามากๆ

Dell XPS 15 9500 รุ่นที่เราได้รับมา ใช้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว สัดส่วน 16:10 ความละเอียด 3,840x2,400 pixels พร้อมกับค่า Bit Depth 8bit +FRC  และแสดงขอบเขตสีได้ 100% Adobe RGB หากว่า มันทดสอบด้วยเครื่องมือแล้วแสดงสีสันได้ตามที่ระบุ เราตอบได้ตรงๆ ก็คือ มันยอดเยี่ยมมาก ถึงอย่างนั้นภาพทดสอบที่เรามองด้วยตาเปล่า ทั้งสีสันและความละเอียดก็แทบจะไม่มีอะไรให้ติเลย นอกจากนั้นแล้ว มันยังมีความสว่างที่บ้ามากถึง 500 nits ใช้งานกลางแจ้งในที่ร่มได้สบายๆ  เรื่องขอบจอบางก็เป็นอีกจุดที่ต้องชมเชยเหล่าวิศวกรออกแบบ ขอบนั้นบางมากในทุกๆ มุมเลย และยังเป็นหน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองการสั่งงานได้ดีอีกด้วย


เรื่องมุมมองก็ไม่มีปัญหาอะไร เรามองว่า ปัญหาอย่างเดียวของจอตัวนี้ก็คือ การเล่นภาพยนตร์ทั่วไป คุณจะเห็นภาพเล็กลงนิดหน่อย และมีขอบภาพบนล่างเพิ่มมากขึ้นจากสัดส่วนของจอ 16:10   ส่วนกล้องเว็บแคมก็ถูกติดตั้งมาให้เช่นกัน โดยวางไว้ตรงกลางขอบจอด้านบน ความละเอียดและคุณภาพถือว่า ใช้งานได้ แต่หากอยากทำการประชุมทางไกลโดยที่ต้องการภาพที่ดีหน่อย แนะนำให้มองหากล้องเว็บแคมดีๆ สักตัวดีกว่า


อีกเรื่องที่เราอยากพูดถึงก็คือ ซอฟต์แวร์ Dell PremierColor ซึ่งจะช่วยให้คุณตั้งค่าหรือกำหนด ค่าการแสดงขอบเขตสีได้โดยง่าย เลือกปรับใช้ Color Space ได้หลากค่า ทั้ง DCI-P3, sRGB, Low Blue Light  ฯลฯ และยังลงไปปรับความสมดุลของสีดำ คอนทราสต์ รวมถึงอุณหภูมิสีของหน้าจอ ที่น่าสนใจก็คือ สามารถคำการคาลิเบลตหน้าจอร่วมกับตัวคาลิเบลดเตอร์ภายนอกบางรุ่นด้วย

พอร์ตเชื่อมต่อที่ต้องพึ่งพาอะแดปเตอร์

แน่นอนว่าพอร์ตเชื่อมต่ออย่าง USB-C และ Thunderbolt 3 นั้นคืออนาคต เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ขยายการใช้งานขั้นสูงสำหรับเหล่า Content Creator ด้วยการต่อพ่วงกับสตอเรจความเร็วสูง ทำ Daisy Chain เชื่อมต่อจอภาพได้หลายตัว หรือเชื่อมต่อกับ eGPU แต่ในมุมของเราผู้ผลิตก็ไม่ควรตัดขาด USB-A ที่มีอุปกรณ์สนับสนุนหลากหลาย ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ผู้ใช้จะต้องพึ่งพาอะแดปเตอร์ USB-A และ HDMI ที่มาให้ในเซ็ท หรือในกรณีที่ผู้ใช้ขั้นสูงจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงจำนวนมากก็จำต้องมองหา Multifunction Adaptor มาใช้ หากว่าไม่อยากยุ่งยากเรื่องใช้งานเมาส์ แนะนำให้หาเมาส์ไร้สายที่สนับสนุนบลูทูธแทน ซึ่งรุ่นดีๆ มีให้เลือกใช้เยอะแยะ


อะแดปเตอร์กำลังจ่ายไฟ 130 วัตต์ มาพร้อมสาย AC ความยาว 85 ซม. สายพลังงาน DC ยาว 180 ซม. น้ำหนักเบากว่าที่คิด


ประสิทธิภาพยังคงเป็นเรื่องที่น่าขบคิด

หลังจากพิจารณาผลทดสอบหลายๆ ส่วน ประสิทธิภาพภายในของโน้ตบุ๊ก Dell XPS 15 9500 นั้นถือว่าทรงพลังและตอบสนองกลุ่ม Prosumer ได้อย่างแน่นอน แต่ว่ามันก็ไม่ได้ส่งมอบพลังประมวลผลแบบก้าวกระโดดที่จะทำให้นักตัดต่อวิดีโอหรือนักออกแบบสามมิติจะต้องเทใจมาให้ นั่นเป็นเพราะว่า ชิปที่อยู่ในโน้ตบุ๊กตัวนี้เป็นแค่ Intel Core i7 10750H และ NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti ที่เป็นรุ่นเกือบจะเริ่มต้นของตระกูล


แม้แต่การทำงานกับแอพพลิเคชั่นด้านภาพและวิดีโอก็ยังให้ผลลัพธ์ที่ไม่หวือหวา เป็นไปตามเนื้อผ้าด้วยซีพียู 6 แกน 12 เทรด ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่มันทำงานได้ดีกว่าโน้ตบุ๊ก Legion Y540 ที่ใช้ซีพียู Core i5-9300 ที่มีแกนประมวลผลน้อยกว่า

เล่นยูทูปผ่านเครือข่ายไร้สายได้นานน่าพอใจ
องค์ประกอบอย่างชิปกราฟิกและซีพียู ประกอบกับตัวเครื่องที่บางก็ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า โน้ตบุ๊ก Dell XPS 15 9500 จะทำงานด้วยพลังงานแบตเตอรี่ไปได้นานแค่ไหนกับแบตเตอรี่ที่ให้กำลังจ่ายไฟ 86 Wh


ถึงอย่างนั้นการเล่นภาพยนตร์ยูทูปต่อเนื่องบนระดับความสว่าง 30% และความดังเสียง 50% ผ่านเครือข่ายไร้สาย ก็เล่นไปได้นานถึง 8:29 ชั่วโมง โดยที่เหลือแบตเตอรี่ 1 เปอร์เซ็นต์ หากเป็นการทำงานแบบออฟฟิศทั่วไปก็จะทำได้ไม่ต่างจากนี้มากนัก ส่วนเวิร์กโหลดที่หนักกว่านี้ ระยะเวลาใช้งานจะสั้นลงกว่านี้อย่างแน่นอน

บทสรุปและความคิดเห็นของ TechMayday
ต้องยอมรับว่าโน้ตบุ๊ก Dell XPS 15 9500 ได้รับการออกแบบและคัดสรรสิ่งต่างๆ มาเป็นอย่างดีจนเกือบจะไร้ที่ติ โดยเฉพาะหน้าจอแสดงผลที่ให้คุณภาพสูงอย่างแท้จริง ถึงอย่างนั้นในแง่ของประสิทธิภาพในการทำงานมันกลับไม่ได้มีอะไรที่ก้าวกระโดดหรือโดดเด่นออกมาอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับระดับราคาของมัน โดยรวมแล้วมันก็เป็นโน้ตบุ๊กที่เชื่อถือได้และส่งมอบสิ่งสำคัญที่เหล่าครีเอเตอร์ในยุคนี้ต้องการ ภายใต้ตัวเครื่องที่ดูดีมากๆ แข็งแรงและเปี่ยมไปได้ด้วยคุณภาพในทุกๆ ส่วน

ขอขอบคุณ Itrinity และ Dell Technologies ที่เอื้อเฟื้อเครื่องสำหรับรีวิว