Dell Inspiron 7391 2-in-1 ดีไซน์พรีเมี่ยมในกลุ่มโน้ตบุ๊กไฮบริด

PROS

ติดตั้งเซนเซอร์ลายนิ้วมือ
มีพอร์ต Thunderbolt 3
ตัวเครื่องบาง วัสดุคุณภาพสูง แข็งแรง
มีช่องเก็บปากกาแบบแม่เหล็ก
แผงคีย์บอร์ดออกแบบมาได้ดี

CONS

ตัวเครื่องเปื้อนรอยคราบได้ง่าย
พอร์ตเชื่อมต่อน้อยเกินไป

อีกหนึ่งซีรีส์โน้ตบุ๊กประเภท Convertible ใช้งานแบบลูกผสมได้ทั้งแลปทอปปกติและแท็บเล็ตของตระกูล Inspiron 13 7000 เรียกได้ว่าเป็นรุ่นเน้นความบางเบา ตัวบอดี้ระดับพรีเมี่ยมแบบอัลตร้าบุ๊กส์ ซึ่งมันเหมาะที่จะเป็น Sub Notebook ที่เน้นการพกพาไปนอกสถานที่ แน่นอนว่า โน้ตบุ๊ก Inspiron 13 7391 2-in-1 ตัวนี้ออกมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว และยังไม่มีรุ่นรีเฟรชอะไรใหม่ นั่นเป็นเพราะว่า มันใช้ชิป Intel Core i5 Gen 10 ที่ยังคงเป็นปัจจุบันและตอบสนองการใช้งานทั่วไปรวมถึงโปรแกรมสำนักงานได้ดี

Key Specifications

  • ราคาโดยประมาณ: 34,990 บาท
  • Intel Core i5-10210U, 4c 8t, 1.6GHz Up to 4.2 GHz
  • 2x4GB Onboard, DDR3-2133 MHz Dual Channel
  • 512GB M.2 PCIe NVMe Solid State Drive
  • Intel UHD Graphics with shared graphics memory
  • 13.3 inch (1,920X1,080), WVA Display
  • Intel Wireless AC 9560 2x2 / Bluetooth 5.0
  • Windows 10 Home 64-bit Single Language
  • Active Pen support, Lithium-Polymer 42 Wh
  • Webcam 1.0MP (720p) , 3.5 mm audio Combo
  • Size: 306 x 215 x 15.9 mm, 1.40 kg.

ดีไซน์คุณภาพ ขนาดกะทัดรัด พอร์ตมีให้แบบจำกัด

บอดี้อลูมิเนียมอโนไดซ์โดยส่วนใหญ่ของโน้ตบุ๊ก Inspiron 13 7391 2-in1 ส่งผลให้มันมีความแข็งแรงสูง มีความแน่นอยู่ภายใน บอดี้มีการบิดตัวต่ำ สัมผัสของผิวให้ความรู้สึกที่ดีมาก ถึงอย่างนั้นด้วยขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ที่ยาวกว่ากระดาษ A4 เล็กน้อย กลับให้ความรู้สึกหนักพอสมควร ส่วนใหญ่อาจจะเป็นเพราะศูนย์ถ่วงหรือความลื่นของผิวบอดี้

แต่ละจุดของการออกแบบถือว่า ทำได้เรียบร้อย ถึงจะเป็นการประกบฝาแต่ละชิ้นเข้าด้วยกัน เราแปลกใจอย่างหนึ่งตรงที่ เดลล์เรียกมันว่า Black Edition แต่สีที่เราเห็นจะไปทางเทาเข้มมากกว่า และมันก็เป็นสีเดียวกันทั้งหมดตั้งแต่ฝาหลัง แผงด้านใน และใต้เครื่อง ย้อนกลับมาที่พอร์ตเชื่อมต่อที่มีให้จำกัดบ้าง นอกจากที่เห็นชัดเจนอย่าง HDMI 3.5 Audio Combo, USB 3.1, MicroSD Card Reader แล้วก็ยังมีพอร์ต Thunderbolt 3 ทางฝั่งซ้ายของผู้ใช้ ซึ่งนอกจากคุณสมบัติของพอร์ตที่มีความเร็ว 50Gbps เชื่อมต่อจอ 4K เชื่อมต่อ External GPU รวมถึงสตอเรจในแบบ Daisy chain แล้ว มันจะมีฟีเจอร์เหมือนกับ USB-C ด้วย ดังนั้นคุณสามารถหา USB-C Multifunction Adaptor มาใช้งานได้ อย่างเช่น ORICO 11-in-1 เป็นต้น

ขนาดความกว้างของแผงคีย์บอร์ดและระยะจากปุ่มแถวล่างสุดไปจนถึงแถวเดียวกับปุ่ม Backspace มีขนาดเกือบเท่ากับแป้นพิมพ์ของเครื่องพีซีโดยไม่รวมปุ่ม F1-F12  ขนาดของปุ่มหรือระยะห่างแต่ละปุ่มเองก็มีระยะที่ดี ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้เราแทบไม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับแผงคีย์บอร์ดนี้เลย ไม่ต้องขยับนิ้วเพิ่มเหมือนกับโน้ตบุ๊กบางรุ่นเวลาจะกดปุ่ม Backspace นอกจากนั้นการตอบสนองของปุ่มทั้งความนุ่มนวล ระยะตื่นกว่าโน้ตบุ๊กปกติเล็กน้อย ป้องกันน้ำกระเซ็น ตัวอักษรไทยบนปุ่มก็มองเห็นได้ชัด แม้จะไม่ได้เปิดไฟ Backlid ใต้คีย์บอร์ด สมกับที่เดลล์นำเสนอว่าเป็น “Premium keyboard” ขณะที่ทัชแพดไม่มีอะไรให้ชมเชยหรือติ ทำหน้าที่และตอบสนองได้ดี สั่งงานหลายนิ้วทำได้อย่างไม่มีปัญหา

ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่บนขวาสุด ไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ ใช้น้ำหนักการกดพอสมควร และด้านใต้ของปุ่มติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือ สามารถสแกนเพื่อเข้าสู่ระบบปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว จากภาพคุณจะเห็นว่า ผิวของโน้ตบุ๊กมีผิวกึ่งมั่นกึ่งด้าน และมีแผงยางเล็กๆ เพื่อเพิ่มระยะไม่ให้หน้าจอกระทบกับตัวบอดี้ด้านในด้วย

จอแสดงผลมุมมองกว้าง สั่งงานแบบสัมผัส ปากกา Dell Active Pen

Dell Inspiron 7391 2-in-1  รุ่นที่รีวิวนี้ใช้จอแสดงผลความละเอียด Full HD เท่านั้น และก็ใช้หน้าจอแบบ WVA หรือ Wide View Angel ซึ่งไม่ใช้พาแนลแสดงผลชนิดใหม่ใดๆ เป็นเพียงชื่อเรียกที่เดลล์ใช้ มันอาจเป็นทั้งพาแนล VA หรือ IPS ก็ได้แต่ ไม่ใช่ OLED แน่นอน หน้าจอถือว่ามีความสว่างมากพอที่ใช้แสดงผลสู้กับแสงภายนอกอาคาร  จะมีปัญหาเล็กน้อยเรื่องแสงสะท้อนบนหน้าจอที่เป็นผิวแบบกระจกแข็งหรือหน้าจอสัมผัสแบบคาปาซิทีฟ

ส่วนเรื่องสีสันของภาพ แน่นอนว่ามันดีมากพอสำหรับการทำงานเอกสารและความบันเทิงต่างๆ ความอิ่มตัวของสีทำได้น่าพอใจ ไม่ได้รู้สึกว่าผิดเพี้ยนจนสังเกตเห็นได้ชัด มุมมองกว้างสมกับชื่อเรียกของมัน แต่เมื่อเทียบสีสันกับหน้าจอ sRGB 96% ของเราแล้ว ขอบเขตการแสดงสีสันของหน้าจอก็ยังดูด้อยกว่า คาดว่าน่าจะแสดงสีตามมาตรฐานของ sRGB ได้ในช่วง 50-70 เปอร์เซ็นต์ ในกรณีที่คุณต้องการให้สีสันมันดูสมจริงมากขึ้นในการรับชมภาพยนตร์ก็ปรับเพิ่มเติมจาก Dell CinemaColor พิมพ์ลงในช่องค้นหาได้เลย

ก่อนหน้านี้ในรุ่น inspiron 14 5491 ปากกา Dell Active pen จะไม่สามารถจัดเก็บลงในตัวโน้ตบุ๊ก แต่รุ่น Inspiron 7391 2-in-1 มีช่องเก็บบริเวณด้านล่างหน้าจอหรือระหว่างบานพับทั้งสองฝั่งโดยอาศัยแม่เหล็กในการยึดเกาะปากกา ไม่มีทางที่จะหลุดร่วงหรือสูญหายแน่นอน

ปากกา Dell Active pen สามารถรองรับน้ำหนักการเขียนได้ 1,024 ระดับ ตรงนี้ถือว่าใช้งานได้ดีในการทำงานร่วมกับเอกสารดิจิตอล อย่างเช่น การสั่งเขียนแก้ไข การไฮไลต์จุดสำคัญ ส่วนการใช้ drawing อย่างจริงจังก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่ได้สนับสนุนการทำงานกับซอฟต์แวร์เฉพาะทางเหล่านั้นได้เต็มที่ ส่วนการวาดภาพในเบื้องต้น พบว่าการตอบสนองของปากการ่วมกับโน้ตบุ๊กและหน้าจอถือว่า ทำได้ในระดับที่น่าพอใจ

อะแดปเตอร์ชาร์จพลังงานยังคงใช้การออกแบบดั้งเดิม น้ำหนักของโน้ตบุ๊กชั่งได้ 1400 กรัมพอดิบพอดี และเมื่อรวมสายไฟ AC และอะแดปเตอร์แล้ว น้ำหนักรวมเพิ่มขึ้นอีก 3 ขีดนิดๆ

รับมือกับซอฟต์แวร์ทางธุรกิจได้อย่างไม่ยาก

ผลการวัดประสิทธิภาพโดยรวมผ่าน PCMark10 ถือว่า โน้ตบุ๊กตัวนี้ทำได้เกินคาด ผลตัวเลขขยับเข้าไปใกล้ 4,000 คะแนน ซึ่งมันไม่ได้รับอานิสงค์จากชิปกราฟิกในการทดสอบหัวข้อ Digital Content Creation เหมือนกับชิปประมวลผลบางตัว แต่คะแนนที่ดันให้ภาพรวมสูงกลับมาจากเรื่อง App Start-up Score ด้วยคะแนนหลักหมื่น การทำงานกับเอกสารตารางก็ทำได้ 7,153 คะแนน ดังนั้นในกรณีของการทำงานเอกสาร แอพพลิเคชันทางธุรกิจที่โหลดจากเครื่องหรือจากคลาวด์จึงทำงานได้สบายๆ ถึงอย่างนั้น หากเจาะลงไปรายแอพพลิเคชันเฉพาะที่ต้องการพลังประมวลผลอย่างเช่น Cinebench R20 หรือ CPU-z จะเห็นว่า มันไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่สำหรับซีพียู Core i5-10210U

ไดรฟ์ NVMe ที่ใช้ในโน้ตบุ๊ก Inspiron 7391 2-in-1  เป็น WD SN520 ขนาด 512GB ความเร็วที่วัดออกมาได้อย่างที่เห็น ถือว่าเร็วในระดับที่น่าพอใจ ขณะเดียวกันผลความเร็วที่วัดด้วย AS SSD จะต่างจาก CrystalDiskMark โดยความเร็วการอ่านลดลงอยู่ที่ 1476 MB/s ขณะที่ความเร็วในการเขียนเหลือ 888 MB/s และใช้การเข้าถึงข้อมูลการอ่านและเขียน 0.038 ms และ 0.030 ms

ใช้งานได้นานระดับมาตรฐาน ชาร์จ 10 นาทีเก็บประจุได้ 10 เปอร์เซ็นต์

ทีมงานทดสอบแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊กด้วยการเล่นยูทูปโดยเชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สาย ใช้ค่าความสว่าง 50% และระดับความดังเสียง 25% ผลที่ได้ก็คือ โน้ตบุ๊กเล่นยูทูปต่อเนื่องได้นาน 5:02 ชั่วโมง โดยที่แบตเตอรี่คงเหลือ 4 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นเรารอให้แบตเตอรี่คลายประจุจนเหลือ 1 เปอร์เซ็นต์ และทำการชาร์จกลับเข้าไปใหม่ โดยระยะเวลา 10 นาที แบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊กกลับมามีกระแสไฟอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์

บทสรุปและความคิดเห็นของเรา
หากคุณมองเรื่องประสิทธิภาพในการประมวลผลของโน้ตบุ๊กประกอบกับราคา โน้ตบุ๊ก Inspiron 13 7391 2-in1 ไม่ใช่คำตอบอย่างแน่นอน นั่นเป็นเพราะ โน้ตบุ๊กหลายๆ ตัวที่ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่นั้นทรงพลังกว่าและราคาก็ถูกกว่าด้วย ถึงอย่างนั้นจุดประสงค์ของการออกแบบโน้ตบุ๊กตัวนี้ก็คือ ความยืดหยุ่นในการใช้งานที่หลากหลายประเภทในตัวเดียวและดีไซน์ภายนอกหรือองค์ประกอบที่พรีเมี่ยม เรามองว่ามันเหมาะที่จะเป็นโน้ตบุ๊กตัวที่ 2 หริอ Subnotebook มากกว่า

ราคาโดยประมาณ: 34,990 บาท
Special Thanks: Dell Thailand